“เตรียมสอบแค่ ๓ เดือน”
คำถาม
“๑) ท่านคะ ถ้ามีเวลาเตรียมสอบแค่ ๓ เดือน มีโอกาสสอบผู้ช่วยฯ ได้ไหมค่ะ
๒) ถ้าเรามีเวลาแค่นั้นจริงๆ เราควรเตรียมตัวอย่างไรค่ะ”
คำถามแรก ฟังดูเหมือนเป็นการค้ากำไรเกินควรนะครับ เหมือนคุณลงทุนน้อย แต่ได้กำไรอย่างงาม ซึ่งนอกจากแชร์ลูกโซ่แล้ว ยังนึกไม่ออกว่าจะต้องลงทุนอะไรถึงได้กำไรแบบนั้น ในขณะที่ผู้สอบส่วนใหญ่จะอยู่ในประเภทลงทุนหนัก แต่ได้กำไรน้อย ถ้าพูดให้ถูกคือ ผู้สอบส่วนใหญ่จะขาดทุนครับ เรียกว่าลงทุนในสิ่งที่ไม่ควรลงทุน
ส่วนพวกที่สอบผ่าน จะอยู่ในประเภทลงทุนหนักและได้กำไรงาม เรียกว่า เป็นการลงทุนแบบเน้นคุณค่า นักลงทุนประเภทนี้ครับ เป็นที่ต้องการของตลาดทุน แต่ก็มักจะไม่มีใครชอบเพราะมันไม่มันส์ ไม่สะใจ ต้องใช้เวลาอย่างอดทน
ถามว่า เคยมีไหมประเภท ๓ เดือนสอบได้ คำตอบคือ เคยได้ยินมาเหมือนกัน ใกล้ตัวด้วยครับ แต่พอคล้อยหลังไป เพื่อนมันมาบอกว่า “พี่ มันโม้ มันไม่นับครั้งที่สอบตกก่อนหน้านี้ ๔ ครั้ง และไม่นับที่อ่านๆ หยุดๆ มาหลายปี”
อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่า คุณจะทำไม่ได้ คุณอาจเป็นคนแรกในวงการนี้ก็ได้ แต่คุณต้องเตรียมตัวแบบนี้ครับ
อย่างแรก ให้คุณตัดรายการหนังสืออื่นๆ ออกให้หมด ให้เหลือเพียง ๓ ตัวเท่านั้น คือ ๑) ตัวบท ๒) จูริส ๓) ข้อสอบเก่า
จากนั้นก็อ่านตามแผนการอย่างเคร่งครัด
๑) ตื่นเช้าขึ้นมาตี ๔ ท่องตัวบทอย่างเดียว ๒-๓ ชั่วโมง ทุกวัน
๒) กลางวัน จะทำงานหรือไม่ตาม คุณต้องอ่านจูริส หรือหนังสืออื่นๆ ที่ใกล้เคียง เพราะคุณไม่มีเวลาอ่านอะไรที่เยิ้นเย้ออีกแล้ว แม้รวมคำบรรยายเนฯ ยังหนักเกินไปด้วยซ้ำ
๓) กลางคืนคุณฝึกทำข้อสอบเก่าจนหลับคาโต๊ะ
ให้จำไว้สั้นๆ ว่า เช้าตัวบท กลางวันจูริส กลางคืนฝึกทำข้อสอบ
ข้อแนะนำ
ในช่วง ๓ เดือนนี้ คุณต้องตัดรายการที่ไม่จำเป็นของชีวิตออกให้หมด ส่งโทรศัพท์เครื่องที่เล่นไลน์ เข้าเฟส ไปทางไปรษณีย์ให้แม่เก็บไว้ บอกแม่ว่า สอบเสร็จเมื่อไหร่จะมารับจากมือแม่
หากแม่ถามเหตุผล ไม่ต้องพูดอะไรมาก บอกว่า “เถอะน่า แม่อย่าเพิ่งถาม มีข่าวดีเมื่อไหร่ จะบอกแม่เอง” ปล่อยให้แม่ตื่นเต้นไปอย่างนั้น
ถ้าแม่ยืนยันว่าต้องรู้เหตุผล ให้บอกว่า “หนูจะเอาอนาคตมาฝากแม่ จะเป็นข่าวดีที่สุดที่แม่เคยได้ยินมา”
แม่ถาม “คงไม่ใช่เลิกกับแฟนเก่า ไปมีแฟนใหม่ใช่ไหม”
“ไม่ใช่ แม่ ข่าวดีกว่านั้น แม่จะต้องภูมิใจในตัวหนูแน่นอน”
“ช่วยบอกแม่หน่อยได้ไหม ถ้าหนูทำแบบนี้ แม่นอนไม่หลับแน่”
“แต่แม่ต้องสัญญานะค่ะ ว่าจะไม่บอกใคร”
“ถ้าพ่อถามล่ะ”
“ยิ่งต้องห้ามบอก กลัวพ่อจะไปโม้”
“ได้ๆ แม่จะเก็บเป็นความลับ ไม่บอกใครเด็ดขาด”
“แม่ฟังหนูดีๆ นะ”
“จ้า แม่รอฟังหนูอยู่”
เตรียมสอบแค่ ๓ เดือน (ต่อ)
“แม่ ไม่บอกใครแน่นะ”
“จ้า………จะให้บอกใครละ แต่แม่ว่า หนูชักจะเหมือนพ่อขึ้นทุกวันแล้วนะ ลีลาเยอะเกิ๊น กว่าจะบอกได้”
“ก็แน่ซิ หนูลูกพ่อไง ลูกแม่ด้วย อิอิ”
“มาแนวนี้อีกแล้ว จะขอเงินเพิ่มละซิ”
“ไม่ค่ะ ไม่มี แต่ เอ๊ พ่อ รู้ไหมว่าหนูโทรมา”
“รู้ซิ นั่งยิ้มอยู่ใกล้ๆ นี่ไง”
“พ่อได้ยินที่หนูพูดกับแม่ไหม”
“ไม่ได้ยิน หนูพูดเบาออกอย่างนั้น แล้วหนูจะบอกได้ยัง”
“แม่ฟังนะ”
“ฟังอยู่”
“ปีนี้หนูตั้งใจสอบผู้ช่วยผู้พิพากษามากๆ ครั้งนี้เอาจริงค่ะแม่ ทุกครั้งที่หนูอ่านหนังสือนึกถึงแม่กะพ่อทีไร หนูไม่เคยหยุดความตั้งใจเลยที่จะต้องทำให้ได้ และปีหน้า แม่จะต้องเห็นหนูสวมครุยขึ้นบัลลังก์ หนูเป็นลูกของแม่ หนูไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ เหมือนกับแม่กับพ่อ แม่อวยพรให้หนูด้วยนะ”
เสียงแม่เงียบไป……………….แต่แล้วเหมือนกับพ่อเข้ามาหยิบโทรศัพท์จากแม่
“หนู นี่พ่อนะ หนูพูดอะไรกับแม่ แม่ร้องให้ไม่หยุดแล้ว”
_________
เมื่อคุยกับแม่จบ ให้คุณเตรียมตัวอย่างเคร่งครัดดังนี้ครับ
ภายใน ๑ เดือนแรก คุณต้องอ่านจุริสให้จบครบทุกเล่ม ตัวบทคุณควรจำได้อย่างน้อยร้อยละ ๓๐ และฝึกทำข้อสอบเก่าไปอย่างน้อย ๑/๓
เมื่อครบ ๓ เดือน คุณต้องท่องตัวบทไห้ได้อย่างต่ำร้อยละ ๕๐ ฝึกทำข้อสอบเก่าเกินครึ่งหนึ่งของเล่ม ส่วนจูริสควรมีสถิติการอ่านอย่างน้อย ๕ เที่ยว
หากอ่านจูริสไม่ทันจริงๆ ให้อ่านเฉพาะหัวข้อที่สรุป แต่คุณจะต้องไม่ไปเบียดบังเวลาท่องตัวบทกับเวลาฝึกทำข้อสอบ
สุดท้ายหากไม่ทันจริงๆ ให้ทิ้งจูริสไปเสีย เหลือเฉพาะการท่องตัวบท กับการฝึกทำข้อสอบเก่าเท่านั้น
ท้ายสุด หากจวนตัว ให้ตัดใจทิ้งจูริสกับข้อสอบเก่า ให้เหลือเพียงตัวบทอย่างเดียว ตะลุยท่องไปจนถึงวันสอบ
ขอให้คุณประสบความสำเร็จ
เครดิต หลักและคำพิพากษากฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา