กรณีเห็นว่าจะต้องพิจารณาเสียก่อนเอกสารที่กฎหมายให้ปิดอากรแสตมป์นั้นเป็นเอกสารต้นฉบับหรือสำเนาหรือทั้งสองกรณี
เห็นว่ากรณีกฎหมายต้องการให้ปิดอากรสแตมป์ที่ต้นฉบับเอกสาร หาได้จำต้องปิดที่สำเนาเอกสารแต่ประการใด เมื่อเป็นเช่นนี้แม้จำเลยจะมิได้คัดค้านเอกสารดังกล่าว ซึ่งถือว่าเป็นการยอมรับสำเนาเอกสารนั้นแทนต้นฉบับเอกสารจึงหาใช่เป็นการรับต้นฉบับเอกสารเป็นพยานหลักฐานอันที่จะต้องปิดอากรสแตมป์ตามประมวลรัษฎากร ทั้งสำเนาก็มิใช่คู่ฉบับ ไม่อยู่ในบังคับที่จะต้องปิดอากรสแตมป์
ตัวอย่าง คำพิพากษาฎีกา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2216/2553
โจทก์นำส่งภาพถ่ายสำเนาหนังสือมอบอำนาจเป็นพยานเอกสารต่อศาล จำเลยที่ 2 ไม่ได้คัดค้านหรือนำสืบโต้แย้งว่าโจทท์มิได้ส่งต้นฉบับหนังสือมอบอำนาจและนำสำเนาหนังสือมอบอำนาจมาสืบแต่อย่างใด จึงเท่ากับว่าคู่ความที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายตกลงกันว่าสำเนาเอกสารนั้นถูกต้องแล้ว จึงให้ศาลยอมรับฟังสำเนาเช่นว่านั้นเป็นพยานหลักฐานได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 93 (1) สำเนาหนังสือมอบอำนาจจึงรับฟังเป็นพยานเอกสารได้ เมื่อเป็นการรับฟังสำเนาเอกสารเป็นพยานหลักฐานแทนต้นฉบับเอกสาร จึงหาใช่เป็นการรับฟังต้นฉบับเอกสารเป็นพยานหลักฐานอันจะต้องปิดอากรแสตมป์ไม่ และสำเนาหนังสือมอบอำนาจดังกล่าวก็มิใช่คู่ฉบับหรือคู่ฉีกแห่งตราสารไม่อยู่ในบังคับที่จะต้องปิดอากรแสตมป์ด้วย
นายเกรียงศักดิ์ นวลศรี น.บ น.บ.ท วิชาชีพว่าความ และผู้เขียนบทความในเว็บตั๋วทนาย.com