ข้อเท็จจริง
เรียนถามเกี่ยวกับการสมรส ส่วนของสินสอดในวันแต่งงานและซองที่ได้รับจากแขกเป็นสิทธิขาดของใคร กรณีนี้พ่อแม่ฝ่ายหญิงตกลงด้วยคำพูดว่าจะคืนสินสอดให้กับคู่สมรส แต่ไม่ได้ทำตามนั้น จนเป็นเหตุให้เกิดความขัดแย้งกัน และต้องการหย่า ควรทำอย่างไรค๊ะ
ประเด็นคำถาม
1. สินสอดคืออะไร
2. เงินช่วยงานแต่งงานเป็นสินสอดหรือไม่ หากไม่ใช่ต้องจัดการอย่างไร
3. ใครเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในสินสอด
4. สัญญาด้วยวาจาหรือสัญญาปากเปล่ามีผลทางกฎหมายหรือไม่ อย่างไร
สินสอดนั้นคือทรัพย์ที่ฝ่ายชายมอบให้แก่พ่อแม่ฝ่ายหญิงเพื่อตอบแทนการที่หญิงยอมสมรสด้วยซึ่งสินสอดนั้นอาจจะส่งมอบกันในวันสมรสหรือไม่ก็ได้ในการนี้ความสมบูรณ์ในการที่จะถือเป็นสินสอดอยู่ที่การส่งมอบแต่อย่างไรนั้นทั้งสองฝ่ายก็ต้องมีเจตนาที่จะให้ทรัพย์นั้นเป็นสินสอดด้วยซึ่งในกรณีที่ว่ามานี้เห็นได้ชัดว่าไม่มีเจตนาที่จะให้เป็นสินสอดกันจริงจึงเท่ากับสิ่งที่ได้กระทำไปนั้นเป็นนิติกรรมลวงไม่มีผลผูกพันคู่สัญญาจึงทำให้ไม่ถือว่าเป็นสินสมรสซึ่งสามารถเรียกคืนได้แต่ในกรณีที่ว่ามานี้ก็อาจมีปัญหาในการพิสูจน์ว่าคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมีเจตนาเช่นนั้นจริงซึ่งท่านก็ต้องหาพยานหลักฐานมาพิสูจน์ให้ได้ในข้อนี้
ส่วนซองที่ได้รับที่ได้รับจากแขกนั้นตามประเพณีแล้วถือว่าเป็นเงินช่วยงานแต่งซึ่งจุดประสงค์ที่มอบให้นั้นก็เพื่อมอบให้กับเจ้าบ่าวและเจ้าสาวซึ่งในทางกฎหมายแล้วถือว่าเป็นสินสมรสหากว่าเงินนี้เป็นเงินที่เจ้าบ่าวและเจ้าสาวได้มาร่วมกันหลังจากจดทะเบียนสมรส ซึ่งหากภายหลังต้องการที่จะอย่ากันทรัพย์สินส่วนนี้ก็จะได้แก่ทั้งสองฝ่ายเท่าๆกันซึ่งจะไปแบ่งตามกฏหมายลักษณะครอบครัว แต่ถ้าหากเป็นกรณีที่ทั้งสองฝ่ายยังมิได้จดทะเบียนสมรสกันเงินค่าซองที่ได้มานั้นก็จะเข้าลักษณะที่เป็นทรัพย์สินรวมซึ่งก็ต้องไปแบ่งกันตามกฎหมายลักษณะทรัพย์ในลักษณะเจ้าของรวมซึ่งก็จะได้ฝ่ายละเท่าๆกันเช่นกันเพราะเป็นสิ่งที่แขกที่มาร่วมงานให้แก่ทั้งสองฝ่าย
ส่วนในกรณีที่ต้องการจะหย่าหากต้องการอาศัยเหตุนี้เป็นเหตุฟ้องหย่าก็ขอกราบเรียนว่าท่านไม่สามารถใช้มูลเหตุนี้เป็นเหตุหย่าได้เพราะไม่เข้าเหตุหย่าตามกฎหมายจะทำได้แต่เพียงอย่างเดียวคือการไปจดทะเบียนหย่าแต่ก็อยากให้ท่านคิดคำนึงว่ามันจะคุ้มกันหรือไม่กับการที่ท่านจะไม่ได้ใช้ชีวิตร่วมกันกับคนที่ท่านรัก
มีปัญหาคดีความปรึกษาทนายกฤษดา 0999170039