ข้อเท็จจริง
ผู้ร้องเป็นข้าราชการทหารเรือ เมื่อปลายปี 2556 ที่ผ่านมาได้ทำสัญญาค้ำประกันเงินกู้ที่ธนาคารออมสิน ต่อมาเมื่อต้นปี 2557 ผู้กู้ได้หนีราชการไปทำให้ผู้ร้องต้องรับผิดชำระหนี้เงินกู้แทนโดยวิธีการหักเงินเดือนของผู้ร้อง ผู้ร้องไม่สามารถติดต่อตัวผู้กู้ได้ทุกช่องทาง โดยผู้กู้มีเจตนาจะหนีหนี้อย่างชัดเจน
ประเด็นคำถาม
1.ผู้ร้องสามารถดำเนินการอย่างไรทางกฎหมายกับผู้กู้ได้บ้าง มีอำนาจฟ้องคดีได้หรือไม่
2. สามารถควบคุมตัวเพื่อให้ไปทำสัญญาใหม่กับทางธนาคารได้หรือไม่
ข้อกฎหมาย
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 693วรรคแรก
การดำเนินการให้คำปรึกษา
ประเด็นที่ 1 สิทธิของผู้ร้องในฐานะผู้ค้ำประกันเงินกู้ที่มีต่อธนาคาร
เมื่อผู้ร้องได้ชำระหนี้เงินกู้แทนไปแล้ว ย่อมมีสิทธิที่จะไล่เบี้ยเอาจากลูกหนี้ เพื่อต้นเงินกับดอกเบี้ยและเพื่อการที่ต้องสูญหายหรือเสียหายไปอย่างใดๆเพราะการค้ำปะกันนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 693วรรคแรก ดังนั้นเงินเดือนที่ผู้ร้องถูกหักชำระหนี้เงินกู้ทุกเดือน รวมถึงค่าใช้จ่ายต่างๆในการติดตามทวงหนี้ค้ำประกันผู้ร้องย่อมมีอำนาจฟ้องไล่เบี้ยเอากับผู้กู้ได้ทั้งสิ้น
ประเด็นที่ 2 สำหรับหนี้ที่ผู้ร้องต้องรับผิดตามสัญญาค้ำประกันนั้นเป็นหนี้ทางแพ่ง
ไม่มีความรับผิดทางอาญา และการบังคับชำระหนี้ต้องเป็นการใช้สิทธิทางศาลอย่างเดียวเท่านั้น ดังนั้น หากผู้ร้องใช้วิธีการจับกุมตัวลูกหนี้ไปทำสัญญาที่ธนาคารอาจเป็นความผิดอาญาในฐานความผิดเกี่ยวกับเสรีภาพได้
รวมทั้งการบังคับให้ทำสัญญาใหม่แม้จะทำเพื่อให้หนี้ของผู้ร้องระงับสิ้นก็ตาม แต่อาจมีผลให้สัญญาที่ทำตกเป็นโมฆียะเพราะถือว่าเป็นการข่มขู่อันเกิดจากความไม่สมัครใจก็ได้ อีกทั้งธนาคารในฐานะผู้ให้กู้อาจไม่ยินยอมให้มีการเปลี่ยนแปลงความรับผิดของคู่สัญญาก็ได้ จึงแนะนำให้ผู้ร้องฟ้องบังคับคดีต่อศาลแล้วตามยึดทรัพย์สินของลูกหนี้มาขายทอดตลาดเพื่อชำระหนี้น่าจะปลอดภัยกว่า
มีปัญหาเกี่ยวกับการโดนฟ้อง หรือปรึกษาปัญหาคดีความ ติดต่อทนายกฤษดา
0999170039
ขอบคุณศูนย์นิติศาสตร์