คำถาม
การได้ภาระจำยอม(ทางเดินสู่ทางสาธารณะ)โดยอายุความนั้น การนับระยะเวลาการใช้ทางหากที่ดินภารยทรัพย์(เจ้าของที่ดินที่มีทาง)มีการโอน(จดทะเบียนขายหรือให้)ต่อๆกันมา จะต้องเริ่มนับระยะเวลาการใช้ทางใหม่ทุกครั้งหรือไม่
คำตอบ
เคยมีคำพิพากษาฎีกาวินิจฉัยไว้ดังนี้
คำพิพากษาฎีกาที่ 10002 / 2551 โจทก์ญาติของโจทก์และผู้เช่าที่ดินพร้อมบ้านของโจทก์ต่างได้ใช้ทางพิพาทในที่ดินของจำเลยทั้งสองเป็นทางออกสู่ทางสาธารณะนะโดยสงบเปิดเผย และด้วยเจตนาจะให้ได้สิทธิ์ทิภาระจำยอมที่ดินของจำเลยทั้งสองจะมีการโอนต่อกันมาหลายครั้งจนมาถึงจำเลยทั้งสองก็ตามแต่เมื่อโจทก์และบริวารได้ใช้ทางพิพาทในที่ดินดังกล่าวติดต่อกันมา โดยเจ้าของที่ดินที่รับโอนต่อกันมาจนถึงจำเลยทั้งสองต่างก็ทราบดีและไม่ได้โต้แย้งคัดค้าน เสร็จในอันที่จะใช้ทางพิพาทและระยะเวลา ในการใช้ทางพิพาทของโจทก์จึงหาถูกกระทบหรือสะดุดหยุดลงไม่ดังนั้นเมื่อโจทก์และบริวารใช้ทางพิพาทติดต่อกันตั้งแต่โจทก์ซื้อที่ดินพร้อมบ้านมาในปี 2530 จนถึงปี 2542 ที่จำเลยทั้งสองการถมที่ดินและล้อมรั้วลวดหนามปิดกั้นทางพิพาทจึงเป็นการใช้เกินกว่า 10 ปีทางพิพาทย่อมตกเป็นภาระจำยอมแก่ที่ดินของโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1401 ประกอบมาตรา 1382 แล้ว
สรุป แม้จะมีการโอนต่อๆกันมาหากไม่โต้แย้งคัดค้านก็สามารถนับอายุภาระจำยอมต่อได้
@
@
@
มีปัญหาเกี่ยวกับที่ดิน การปิดทางเข้าออก โทรปรึกษาทนายกฤษดา
0999170039