อายุความที่เจ้าหนี้ฟ้องเรียกดอกเบี้ยค้างชำระคืนกับลูกหนี้ เจ้าหนี้คิดดอกเบี้ยย้อนหลังเกิน5ปีได้หรือไม่
คำถาม : นาย ทน กู้ยืมเงินจากเจ้าหนี้ ตั้งแต่ปี 2518 คิดดอกเบี้ยเงินกู้ ร้อยละ 15 ต่อปี ภายหลังที่นาย ทน รับเงินแล้วก็ไม่ชำระหนี้เงินกู้และดอกเบี้ยเลย ต่อมาปี 2527 เจ้าหนี้จึงฟ้องให้นาย ทน รับผิดชำระหนี้ต้นเงิน และดอกเบี้ยค้างชำระย้อนหลัง 9 ปีได้หรือไม่
คำตอบ
เจ้าหนี้สามารถฟ้องให้นาย ทนชำระหนี้ต้นเงินทั้งหมดแล้วแต่คิดดอกเบี้ยค้างชำระย้อนหลังคืนได้เพียง 5 ปีเท่านั้น
เป็นไปตาม ป.พ.พ.มาตรา 193/33(1) กฎหมายกำหนดให้ต้องฟ้องเรียกดอกเบี้ยภายใน 5 ปี นับแต่วันผิดนัด ส่วนดอกเบี้ยที่ลูกหนี้ค้างชำระเกิน 5 ปี ขาดอายุความ ซึ่งอายุความนี้ไม่ใช่เรื่องปัญหาความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ลูกหนี้ต้องยกขึ้นต่อสู้เอง
BY MissLadyLawyer
มีปัญหาเรื่องกู้ยืม สัญญา ผิดนัดชำระหนี้ ดอกเบี้ยค้างจ่าย ปรึกษา ทนายชีวารัตน์ 093-8791914 LINE ID: chompoo1103
////////////////////////////////////
เทียบเคียงคำพิพากษาฎีกา3212/2532
การเรียกเอาดอกเบี้ยค้างส่งมีกำหนดอายุความ 5 ปี ตามป.พ.พ.มาตรา 166 จำเลยที่ 1 ถึงที่ 5 ทำสัญญากู้ยืมเงินโจทก์และรับเงินครบถ้วนเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2518 โดยยอมรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วม จำเลยที่ 1 ไม่ชำระหนี้เงินกู้และดอกเบี้ย ครั้นวันที่ 1 ธันวาคม 2526 จำเลยที่ 4ที่ 5 ทำสัญญารับใช้หนี้เงินกู้โดยยอมชำระดอกเบี้ยค้างส่งทั้งหมดของจำเลยที่1 การที่โจทก์ฟ้องคดีเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2527 คดีโจทก์สำหรับหนี้ดอกเบี้ยค้างส่งจึงไม่ขาดอายุความแต่จำเลยที่ 1 มิได้ทำสัญญารับใช้หนี้เงินกู้ดังกล่าวด้วยจึงไม่ต้องผูกพันโดยสัญญาดังกล่าว โจทก์มีสิทธิเรียกร้องดอกเบี้ยค้างส่งได้เพียงภายใน 5 ปี นับแต่วันฟ้องย้อนหลังลงไป อายุความฟ้องร้องเรียกคืนเงินกู้ไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น จึงมีกำหนดสิบปีตาม ป.พ.พ. มาตรา 164