Home สาระน่ารู้ แชร์ประสบการณ์ ตามหนี้ 20ล้าน จากเช็คใบเดียว

แชร์ประสบการณ์ ตามหนี้ 20ล้าน จากเช็คใบเดียว

6558

แรกเริ่มขออันเชิญพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงมีพระราชดำรัส ในโอกาสที่ประธานศาลฎีกานำผู้พิพากษาประจำศาลยุติธรรมเข้าเฝ้าฯ เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ เมื่อวันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๔๕ ความว่า 

          ” ถ้าเอาชนะแต่ชนะ มันก็ต้องมีแพ้ แต่ถ้าปรองดองกัน มีแต่ชนะไม่มีแพ้”

แรกเริ่มเดิมที่ลูกความรับขายฝากแบบโอนขาย ที่ดิน 16ไร่ ในราคา 16ล้าน แพงกว่าราคาประเมินครึ่งนึง และมีการยืมเงินทำธุรกิจกันโดยไม่มีสัญญาอะไรเลย ยอดแยกเกือบ 900,000  
อ้างว่านำไปทำธุรกิจโครงการบ้านจัดสรร มีการพูดคุยกับคนอื่นทางธุรกิจอีกในหลายๆเจ้า ทั้งล้อมรั้ว ถมดิน ทุกรายล้วนโดนเหมือนกันหมด แลดูเยอะสุดจะเป็นลูกความผมแต่โชคยังดี ที่มีชื่อในโฉนด  
ในวันที่มาปรึกษาผม บอกปรึกษามาหลายที่ทุกคนล้วนบอกไม่มีสัญญาก็ฟ้องไม่ได้ มีเช็คหนึ่งใบ ยอด3แสน กับโฉนดใบเดียวในที่ดิน 16ไร่ ราคาประเมินประมาน 8ล้าน ผมถามหาสัญญากู้ยืม ตอบมาคำเดียว ไม่มีอะไรเลย ผมมีแค่นี้ ก่อนหน้านี้ผมว่าความให้ลูกความท่านนี้กว่า 10คดี  

ผมดูข้อกฎหมายกับคำพิพากษาฎีกาอยู่นานจึงตัดสินใจฟ้อง ด้วยวิธีการทางทนายจากคดีเช็ค สุดท้ายศาลประทับฟ้อง การเจรจาต่อรองในลำดับถัดมาจึงเกิดขึ้น  
ในนัดสอบคำให้การผมเกลี่ยกล่อมอยู่นาน เพราะรู้ว่าถ้าจำเลยสู้แพ้แน่ จึงใช้การเจรจาต่อรองด้วยคำพูดสวยหรู สุดท้ายตกลง จำเลยรับสารภาพ มีเงื่อนเวลาในการผ่อนชำระแบบหอมหวาน เลื่อนอ่านคำพิพากษาผ่านไป3เดือน ไม่ผ่อนสักบาท เหตุการณ์ต่อมาจึงเกิดขึ้นผมคุยให้ทำสัญญารับสภาพหนี้ในมูลหนี้ทั้งหมด พร้อมได้เงินคืนมาบางส่วน

ผ่านไปในนัดฟังคำพิพากษาใน3เดือนต่อมา จำเลยไม่จ่ายอีกครั้ง ช่วงระหว่างนั้นผมคุยให้ไปขายที่16ไร่ จะได้เงินมาคืน ระหว่างนั่นมีการเจรจาบอกขายได้ 17ล้าน ให้ค่านายหน้าผม 500,000แบ่งกันคนละครึ่ง จากยอด1ล้าน ให้โทรบอกลูกความว่า 16ล้านส่วนที่เหลือ นำมาแบ่งกัน ด้วยความเป็นทนายตรงชิน โทรบอกลูกความ ว่าจำเลยเจรจาว่าอย่างนี้
ด้วยยอดและความคุ้มค่าขณะนั้นลูกความโทรมาสั่งขาย ที่ 17ล้าน ทนายรับมอบอำนาจโอนได้ทันที ด้วยระยะเวลาและการประเมินความคุ้มค่าจากดอกเบี้ย ผมบอกให้ใจเย็นก่อยครับรอสักพักแจ้งความประสงค์ไปที่ 20ล้าน 
ในระหว่างนั้นมีการเจรจากันอยู่หลายรอบ 17ล้าน 18ล้าน 19ล้าน ผมบินไปมาเชียงราย กรุงเทพอยู่หลายครั้ง สุดท้ายโทรมาบอกมีคนมาซื้อให้บอกที่ 19ล้านขายได้ 20ล้าน ค่าโอนคนละครึ่ง ค่านายหน้าแบ่งกันตามเดิม ผมก็เจรจาตามเดิมอีกครั้ง ยืนยันว่า รับเน็ท 20ล้าน ผมรับมอบอำนาจ และศึกษาวิธีว่าวิธีใดรับเงินค่าธรรมเนียมน้อยสุด ไม่ว่าจะแคลชเชียร์เช็ค ดราฟ ศึกษาวิธี พร้อมประเมินค่าธรรมเนียมการโอนคร่าวๆ รวมทั้งวางแผนภาษีเงินได้จากการขายที่ดินของลูกความ เพื่อความปลอดภัย
สุดท้ายตกลงกันที่รับเน็ท 20ล้าน ผมรับมอบอำนาจและโอนได้ทันที ค่าธรรมเนียมการโอนรวมภาษีธุรกิจเฉพาะ 700,000กว่า มีการเกี่ยงกันออกอีกครั้ง ในวันโอน ผมก็ยังนิ่งและยืนยันคำเดิมว่ารับเน็ท สุดท้ายจำเลยและผู้ซื้อตกลงออกกันเอง ผมรับเน็ทให้ลูกความ 20ล้าน เอาเงินเข้าบัญชีกลับบ้าน (ต้องใจเย็นมากๆ การเจรจาเปลี่ยนได้เสมอ ผมยืนยันที่จะล้มกระดานหากไม่ได้ยอด ) อ่อผมกลัวไม่สำเร็จเพื่อความรอบครอบให้จำเลยโอนมัดจำค่าเดินทางมา 10,000บาท  
สุดท้ายกลับกรุงเทพ ผมนำสมุดบัญชีใส่เงิน 20ล้านไปให้ ลูกความถามบอกค่าใช้จ่ายคุณทนายเท่าไหร่ ด้วยความว่าความให้แกมาหลายคดี ทุกคดี 5-6หลัก ผมเลยแจ้งกลับลูกความว่า แล้วแต่จะให้ สุดท้ายแกควักมาหลักพันถามผมพอไหมครับ ผมยิ้มก้มหน้าและรับไว้  

ตามคำสอนของอาจารย์ทั้งหลาย 

“ว่าเป็นทนายนะไม่ยาก แต่อยู่ได้ด้วยวิชาชีพทนายอยากกว่า ชีวิตจริงมีคดีก็อยู่ได้ แต่ต้องอยู่ให้ได้ในวันที่ไม่มีคดี” ,คุณต้องอยู่อย่างเสือ อย่าหิวอย่างหมา
ในคดีเช็คผมตามเรื่องการผ่อนชำระและหนี้สินทั้งหลายจนเสร็จ หมดภาระกิจ ต่อมาลูกความโทรมาบอกให้ทำคดีให้อีก5-6เรื่อง ทุกเรื่องยากแบบไม่มีแนวฎีกาเสมอๆ ผมก็ยังรับทำให้แกต่อไป หลังจากหมด 5-6เรื่องนั้นผมก็ไม่ได้รับทำให้แกอีกเลย แต่ลูกความก็ยังโทรมาปรึกษาผมเสมอๆ แทบทุกอาทิตย์
เรื่องนี้ขออนุญาตนำมาแชร์ประสบการณ์ เพื่อเป็นประโยชน์แก่สาธารณะ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงที่จังหวัดเชียงราย 
เรื่องนี้ สอนหรือเตือนใจให้รู้ว่า 
ถ้าเราทำถูกต้องไม่ต้องกลัวพรุ่งนี้ ทำธุรกิจทุกครั้งเอกสารสำคัญ การสู้คดีทางศาลไม่ได้ทำให้ชนะและได้เงินคืนเสมอไป บางทีมีสัญญาอาจจะแพ้ก็ได้ 
การเจรจาตั้งหากที่ล้วนแต่จะมีผลดี เราไม่ได้แพ้ เราไม่ได้ชนะ แต่เราได้ความสงบสบายใจ ได้เงินคืน ไม่ต้องเดินขึ้นลงศาล เรื่องนี้ผมได้ประสบการณ์และบุญล้วนๆ ผมไม่ได้ซีเรียสเรื่องเงินอะไร เรื่องเงินถ้าเราขยันสามารถหาใหม่ได้ อยู่ที่ตัวเราล้วนๆ ว่าขยันและใส่ใจในการทำมาหากินหรือไม่ อย่างน้อยก็รู้ความสามารถของตัวเองว่าฝีมือและฝีปากผมยังแพรวพราวเสมอ
สุดท้ายนี้ขออันเชิญพระราชดำรัสในหลวงรัชกาลที่ 9เรื่องการไก่ลเกลี่ยอีกครั้ง ความว่า

          ” ถ้าเอาชนะแต่ชนะ มันก็ต้องมีแพ้ แต่ถ้าปรองดองกัน มีแต่ชนะไม่มีแพ้”

ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบ ถ้าชอบให้กดไลท์และแชร์เป็นกำลังใจเยอะๆนะครับ บทความนี้เขียนด้วยมือถือบนเครื่องบินไม่มีเวลาแต่งรูปสวยๆหากผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้

ทนายกฤษดา 
มีปัญหาคดีความปรึกษาทีมงานทนายกฤษดา

0891427773

Facebook Comments