ปัญหาว่าโจทก์จะต้องทําคําร้องขอถอนฟ้องเป็นหนังสือมายื่นต่อศาลหรือไม่
คําพิพากษาฎีกาที่ ๒๖๕๙/๒๕๖๐
เห็นว่า การถอนฟ้องคดีอาญาหาจําเป็นต้องทําคําร้องขอเป็นหนังสือมายื่นต่อศาลแต่เพียงวิธีเดียวไม่ ทั้งนี้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๓๕ วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “คําร้องขอถอนฟ้องคดีอาญาจะยื่นเวลาใดก่อนมีคําพิพากษาของศาลชั้นต้นก็ได้ ศาลจะมีคําสั่งอนุญาตหรือมิอนุญาตให้ถอนก็ได้ แล้วแต่ศาลจะเห็นสมควรประการใด…”
เท่ากับให้เป็นดุลพินิจของศาลที่จะกําหนดให้ถอนฟ้องด้วยวิธีใดแล้วแต่ศาลจะเห็น สมควร คดีนี้ศาลชั้นต้นเห็นว่า โจทก์ได้แสดงเจตนาขอถอนฟ้องไว้เป็นหนังสือแล้ว โดย ไม่ได้สั่งให้โจทก์ยื่นคําร้องขอถอนฟ้องเข้ามาอีก และมีการบันทึกไว้ตามรายงานกระบวน พิจารณาของศาลชั้นต้นดังกล่าว จึงถือเป็นดุลพินิจที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความอาญา มาตรา ๓๕ วรรคหนึ่ง แล้ว
ส่วนปัญหาว่าคําท้าในคดีแพ่งดังกล่าวชอบด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๓๔ หรือโจทก์กับจําเลยได้ปฏิบัติตาม คําท้านี้หรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่ชอบจะว่ากันในคดีแพ่งดังกล่าว ทั้งเป็นข้อที่ไม่ได้ยกขึ้น ว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความอาญา มาตรา ๑๕ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๔๙ วรรคหนึ่ง ที่ใช้อยู่ในขณะยื่นฟ้อง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย นอกจากนี้การขอถอนฟ้องคดีนี้ แม้จะเป็นผลประการหนึ่งอันสืบเนื่องมาจากข้อตกลงหรือการท้ากันในคดีแพ่งดังกล่าว ก็ตาม ก็หาได้ถือว่าเป็นการท้ากันในคดีอาญานี้ไม่ ดังนั้น เมื่อเป็นการขอถอนฟ้อง ก่อนมีคําพิพากษาของศาลชั้นต้น จําเลยไม่คัดค้านการถอนฟ้องและศาลชั้นต้นมี คําสั่งอนุญาตให้ถอนฟ้อง กับจําหน่ายคดีออกจากสารบบความ จึงชอบด้วยกฎหมายแล้ว
มีปัญหาคดีความปรึกษาทีมงานทนายกฤษดา
โทร 089-142-7773 ไลน์ไอดี Lawyers.in.th