กู้นอกระบบ โดยถูกหลอกลวงให้วางแผนไปเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ มีความผิดฐานใดหรือไม่
คำตอบ
เคยมีคำพิพากษาฎีกาวินิจฉัยไว้ดังนี้
คำพิพากษาฎีกาที่ ๔๖๐๘/๒๕๖๐
จำเลยที่ ๒ เป็นผู้วางแผนและมอบเงินให้จำเลยที่ ๑ ไปเช่าซื้อรถจักรยานยนต์จากโจทก์ร่วม โดยไม่มีเจตนาที่จะผูกพันตามสัญญาเช่าซื้อ เพียงแต่อาศัยการหลอกลวงโจทก์ร่วมว่าจะปฏิบัติตามสัญญาเพื่อเป็นช่องทางให้ได้รถจักรยานยนต์ไป ครั้นได้รถจักรยานยนต์มาแล้ว จำเลยที่ ๒ นำรถจักรยานยนต์ไปและให้เงินค่าจ้างแก่จำเลยที่ ๑ ดังนี้เป็นการร่วมกระทำความผิดโดยแบ่งหน้าที่กันทำ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๑ ประกอบมาตรา ๘๓
สรุปมีความผิดฐานเป็นตัวการร่วมกันฉ้อโกง
ข้อสังเกต
1.ในประการแรกความผิดฐานฉ้อโกงกับความผิดสัญญาทางแพ่งมีหลักการพิจารณาดูว่าขณะทำสัญญาจำเลยมีเจตนาที่จะปฏิบัติตามสัญญาหรือไม่ ถ้ามีเจตนาที่จะปฏิบัติตามสัญญาไม่ถือว่าเป็นการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ เป็นเรื่องผิดสัญญาทางแพ่ง
2.แต่ขณะจำเลยทำสัญญามีเจตนาทุจริตมาตั้งแต่แรกที่จะไม่ปฏิบัติตามสัญญาคงอาศัยสัญญาเป็นเครื่องมือให้ผู้ปกครองทรัพย์ส่งมอบทรัพย์ให้การกระทำนั้นเป็นความผิดฐานฉ้อโกงตามมาตรา 341
3แต่ถ้าจำเลยทำสัญญาเช่าซื้อโดยจำเลยมีเจตนาผูกพันตามสัญญาจำเลยเป็นผู้ครองทรัพย์สินที่เช่าซื้อถ้าในระหว่างผ่อนชำระราคาผู้เช่าซื้อนำทรัพย์ที่เช่าซื้อไปขายกรณีนี้จำเลยเบียดบังทรัพย์สินที่เช่าซื้อเป็นความผิดฐานยักยอกตามกฎหมายอาญามาตรา 352
มีปัญหาคดีความปรึกษาทีมงานทนายกฤษดา