การฎีกาโต้แย้งดุลพินิจในการรับฟังพยาน เป็นการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงหรือไม่
คําพิพากษาศาลฎีกาที่ ๕๔๗๐/๒๕๖๒
คดีนี้ความผิดฐานกระทําชําเราเด็กอายุไม่เกินสิบสามปี และความผิดฐานพรากเด็กอายุ ไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร ศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น โดยให้ลงโทษจําคุกจําเลยหลังลดโทษแล้วกระทงละไม่เกินห้าปี จําเลยจึง ต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๑๘ วรรคหนึ่ง ที่จําเลยฎีกาในความผิดฐานดังกล่าวมาโดยสรุปได้ความในทํานองว่า พยานหลักฐาน ของโจทก์มีพิรุธน่าสงสัย ยังไม่มีน้ําหนักเพียงพอให้รับฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่าจําเลย เป็นผู้กระทําผิดหรือขอให้รอการลงโทษให้แก่จําเลยนั้น เป็นการฎีกาโต้แย้งดุลพินิจในการรับฟัง พยานหลักฐานและการกําหนดโทษของศาลอุทธรณ์ภาค ๒ ซึ่งเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้าม ตามบทกฎหมายดังกล่าวข้างต้นที่ศาลชั้นต้นรับฎีกาของจําเลยมาจึงเป็นการไม่ชอบ
มีปัญหาคดีความปรึกษาทีมงานทนายกฤษดา
โทร 089-142-7773 ไลน์ไอดี @Lawyers.in.th