>>เกี่ยวกับคดีนี้
สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน และสมาชิกแฟนเพจ ทีมงานทนายความกฤษดา ได้รับการขอคำปรึกษามาเยอะเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว จึงขออนุญาตถ้อยแถลงพร้อมแนบหลักฐานประกอบ เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่า
คดีนี้เดิม โจทก์และจำเลยมีการกู้ยืมเงินกันโดยส่งข้อความกันทางแอพพลิเคชั่น Facebook ซึ่ง เมื่อได้กู้ยืมเงินกันแล้วมีการส่งข้อความยืนยันการกู้เงินกันผ่านทางแอพพลิเคชั่น LINE จากนั้นมีการพูดคุยกันทั้งใน Facebook และใน LINE เมื่ออ่านข้อความโดยรวมแล้วมีตัวเลขที่กู้ยืมชัดเจนและมีวันเวลาที่จะคืนจึงใช้กฎหมายใหม่มาฟ้อง ประกอบกับมีการโอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร
(ติดต่อทนายกฤษดา 089-142-7773 ไลน์ไอดี @lawyers.in.th )
>>หลักกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ มาตรา4,7,8,9
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 653
>>คำพิพากษาศาลฎีกาที่ค้นคว้ามาเพื่อฟ้องประกอบคดี
คำพิพากษาฎีกาที่ 8089/2556 ใจความหลักเรื่อง ” ห้ามมิให้ปฏิเสธความมีผลผูกพันและการบังคับใช้ทางกฎหมายของข้อความใดเพียงเพราะเหตุที่ข้อความนั้นอยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ประกอบกับมาตรา 8 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่าภายใต้บังคับบทบัญญัติแห่งมาตรา 9 ในกรณีที่กฎหมายกำหนดให้การใดต้องทำเป็นหนังสือมีหลักฐานเป็นหนังสือหรือมีเอกสารมาแสดง ถ้าได้มีการจัดทำข้อความขึ้นเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถเข้าถึงและนำกลับมาใช้ได้โดยความหมายไม่เปลี่ยนแปลง ให้ถือว่าข้อความนั้นได้ทำเป็นหนังสือ มีหลักฐานเป็นหนังสือหรือมีเอกสารมาแสดงแล้ว และมาตรา 9 บัญญัติว่าในกรณีที่บุคคลพึงลงลายมือชื่อในหนังสือ ให้ถือว่าข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้นมีการลงลายมือชื่อแล้ว ”
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 145/2553 ใจความหลักเรื่อง สาระสำคัญของการกู้ยืมคือการส่งมอบเงินหรือหลักฐานเป็นหนังสือ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3300/2551 ใจความหลักเรื่องมูลคดีเกิด หรือสถานที่ใช้สิทธิทางศาล
>>หลักฐานเบื้องต้นและขั้นตอนในการฟ้องที่ควรมีมีดังต่อไปนี้
1.คดีนี้ก่อนฟ้องมีการออกหนังสือทวงถามก่อนเพื่อจะได้ยืนยันว่าจำเลยเพิกเฉยหรือไม่ชำระหนี้อันเป็นการโต้แย้งสิทธิ์ทำให้มีอำนาจฟ้อง
2. ต่อมาเป็นหลักฐานเกี่ยวกับโปรไฟล์ของจำเลยในแอพพลิเคชั่น Facebook และแอพพลิเคชั่น LINE รวมทั้งการทำกิจกรรมอื่นๆซึ่งสามารถยืนยันได้ว่าบัญชี Facebook และบัญชี LINEเป็นของจำเลย และแคปเจอร์ข้อความที่สนทนาประกอบด้วย
3.สลิปหรือหลักฐานการโอนเงิน ตรวจชื่อสกุลให้ตรงกับหลักฐานข้อ4
4.หลักฐานถัดมาคือทะเบียนราษฎร์ของจำเลย หากมีการเปลี่ยนชื่อ ต้องมีหลักฐานเปลี่ยนชื่อตัว ชื่อสกุลด้วย
5.ถัดมาเป็นคำขอเปิดบัญชีธนาคารที่โจทก์โอนเงินเข้า คำขอเปิดบัญชีนี้จะเห็นจะเห็นชื่อของผู้ขอเปิดบัญชีปกติแล้วก็จะตรงกับชื่อจำเลย
6.รายการเคลื่อนไหวทางบัญชี ของทั้งของโจทก์ที่โอนเงินออก และของจำเลยที่โอนเงินเข้า โดยสามารถระบุไว้ในหมายเรียกพยานเอกสารว่าจำนวนเงิน 80,000 บาทได้รับโอนมาจากบัญหมายเลขใด และชื่อบัญชีใด
7.แนบพรบ.ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ประกอบด้วย
คำพิพากษาที่ศาลตัดสิน
มีปัญหาคดีความปรึกษาทีมงานทนายกฤษดา
โทร 089-142-7773 ไลน์ไอดี @lawyers.in.th