การลักกระแสไฟฟ้าและสัญญาณโทรศัพท์
ปัจจุบันเศรษฐกิจรัดตัว ทำให้ผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไปต้องการรัดเข็มขัด ทางการเงินมากขึ้น
จึงเกิดมิจฉาชีพ ที่ต้องการใช้กระแสไฟฟ้าฟรี หรือใช้สัญญาณโทรศัพท์ฟรี โดยไม่จ่าย ค่าบริการ กับการไฟฟ้า หรือบริษัทที่ให้บริการ สัญญาณโทรศัพท์
ในอดีตมีคดีลักษณะนี้เกิดขึ้น พอสมควร จึงขอนำเสนอ ตามแนวการตัดสินคดี ของศาล ตามลักษณะการเกิดเหตุ ไว้ดังนี้
1. ทำให้มิเตอร์ไฟฟ้าหยุดหมุนผิดหลักทรัพย์ ( ฎีกาที่ 481/2549 )จำเลยกับพวกลักเอากระแสไฟฟ้าไป ใช้ ด้วยการทำให้มิเตอร์ไฟฟ้าไม่หมุน เพื่อให้ตัวเลขวัด การใช้ไฟฟ้าไม่เคลื่อนที่ พฤติกรรมดังกล่าวย่อมแสดงว่าจำเลยกระทำ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเอากระแสไฟฟ้าของผู้เสียหาย ไปใช้โดยไม่เสียค่าไฟฟ้าเป็นสำคัญ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์ (ลงมือหลายคน)
2. ต่อพ่วงสัญญาณโทรศัพท์จากสายโทรศัพท์ผิดลักทรัพย์ ( ฎีกาที่ 286/2545) สัญญาณโทรศัพท์เป็นกระแสไฟฟ้าที่แปลงมาจากเสียงพูด เคลื่อนที่ไปตามสายลวดที่จำเลยต่อพ่วง เป็นตัวนำจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง การที่จำเลยลักเอาสัญญาณโทรศัพท์จากสายโทรศัพท์ ซึ่งอยู่ในความครอบครองของผู้เสียหายไปใช้เพื่อประโยชน์ของตนโดยทุจริต จึงเป็นความผิดฐานลักทรัพย์
3. ปรับจูนและ Copy คลื่นสัญญาณโทรศัพท์ ไม่ผิดลักทรัพย์ ( ฎีกาที่ 877/2543 ) จำเลยกับพวกนำเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่ปรับคลื่นสัญญาณและรหัสเลขหมายของโทรศัพท์ผู้อื่นมาใช้ติดต่อสื่อสาร โทรออกหรือรับการเรียกเข้าผ่านสถานีและชุมสายโทรศัพท์ ระบบเซลลูลาร์ของผู้เสียหายนั้น เป็นเพียงการรับส่งวิทยุคมนาคม หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งว่าเป็นการแย่งใช้คลื่นสัญญาณโทรศัพท์โดยไม่มีสิทธิ จึงไม่ใช่เป็นการเอาไปซึ่งทรัพย์สินของผู้อื่นโดยทุจริต การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิด ตามมาตรา 335(1)ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน,(7)วรรคสอง (โดยมีอาวุธหรือร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป) แต่จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม
เอาเป็นว่าถ้าไม่มี เงินจ่ายค่าไฟ เพื่อส่องสว่าง ท่านผู้นำก็เคยแนะนำว่าให้จุดเทียนเอา อย่าไปกระทำความผิด ที่กฎหมายก็ห้ามไว้เลยครับ ด้วยความปรารถนาดี
ทนายอธิป 0968247444