คําถาม หนังสือมอบอํานาจมิได้ระบุให้ผู้รับมอบอํานาจฟ้องและดําเนินคดีแทน จะนําพยานบุคคลมาสืบว่า ผู้รับมอบอํานาจมีอํานาจยื่นฟ้องต่อศาลหรือมีสิทธิดําเนินคดีแทน ผู้มอบอํานาจ ได้หรือไม่
คําตอบ มีคําพิพากษาฎีกาวินิจฉัยไว้ดังนี้ คําพิพากษาฎีกาที่ ๒๓๕๙/๒๕๖๑
การมอบอํานาจให้บุคคลใดเป็นผู้แทนตนในคดีต้องทําเป็นหนังสือตามนัย แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดี ทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙๙ มาตรา ๒๖ ประกอบ ป.วิ.พ. มาตรา ๖๐ วรรคสอง และมาตรา ๘๐๒ วรรคหนึ่ง แห่ง ป.พ.พ. บัญญัติว่า ถ้าตัวแทน ได้มอบอานาจทั่วไป ท่านว่าจะทําก็จได้ ในทางจัดการแทนตัวการก็ย่อมทําได้ทุกอย่าง และวรรคสองบัญญัติว่า แต่การเช่นอย่างจะกล่าวต่อไปนี้ ท่านว่าหาอาจจะทําได้ไม่คือ.. (๕) ยื่นฟ้องต่อศาล..อันเป็นบทกฎหมายจํากัดอํานาจของตัวแทนทั่วไปที่ว่าไม่มีอํานาจยื่นฟ้องคดี ต่อศาล เว้นแต่จะได้รับมอบอํานาจแต่เฉพาะการให้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลจากตัวการส่วนหนึ่ง
ใจทก์บรรยายฟ้องและนําสืบว่า โจทก์มอบอํานาจให้ บ. ฟ้องและดําเนินคดีแทน โจทย์ ตามหนังสือมอบอํานาจและคําแปล ซึ่งเมื่อพิจารณาหนังสือมอบอํานาจดังกล่าว ระบุ ข้อความในการมอบอํานาจแต่เพียงว่า บ. มีสิทธิ์ในการลงนามเอกสารดําเนินการทั้งหมด ของบริษัทสาขาทั้งภายในและภายนอกอันมีลักษณะเป็นการมอบอํานาจโดยไม่ระบุกิจการ โดยมิได้ระบุให้ บ. มีอํานาจยื่นฟ้องต่อศาล จึงเป็นหนังสือมอบอํานาจทั่วไปตาม ป.พ.พ. มาตรา ๕๐ วรรคหนึ่ง แม้โจทก์จะมี บ. มาเบิกความยืนยันว่าตามหนังสือมอบอํานาจ พยานมีสิทธิดําเนินคดีนี้แทนโจทก์ ก็เป็นการนําสืบพยานบุคคลเพิ่มเติม หรือเปลี่ยนแปลง แก้ไขพยานเอกสาร ซึ่งต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๙๔ (ข)
สรุป ไม่ได้
มีปัญหาคดีความปรึกษาทีมงานทนายกฤษดา
โทร 089-142-7773 ไลน์ไอดี @lawyers.in.th