คำพิพากษาฎีกา 2322/2539
พิเคราะห์แล้ว มีปัญหาที่จะวินิจฉัยตาม ฎีกาของจำเลยว่า จำเลยได้กระทำความผิดฐานมีกัญชาไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่าย ดังฟ้องและสมควรรอการลงโทษจำคุกจำเลยหรือไม่
เห็นว่า การ ที่จำเลยได้ให้การไว้ตามบันทึกคำให้การดังกล่าวว่า จำเลยมีกัญชาของกลางไว้เพื่อใส่ในก๋วยเตี๋ยวที่จำเลยขายก็มีความหมายว่า จำเลย ให้การรับสารภาพว่า จำเลยมีกัญชาของกลาง ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายนั่นเอง
เพราะการขายก๋วยเตี๋ยวที่มีกัญชาเป็น ส่วนผสมก็เท่ากับได้จำหน่ายกัญชานั้น ให้ผู้ที่ซื้อก๋วยเตี๋ยวจากจำเลยด้วย พยานหลักฐานของโจทก์ได้ความดังนี้ โดยไม่ปรากฏว่า พยานของโจทก์ดัง วินิจฉัยแล้วข้างต้นมีสาเหตุโกรธเคือง กับจำเลยอันจะทำให้น่าสงสัยว่าจะแกล้งเบิกความปรักปรำจำเลย
จึงเห็นว่า พยานหลักฐานของโจทก์มีน้ำหนักเชื่อได้ว่าจำเลยได้กระทำความผิดฐานมีกัญชาของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายจริงดังฟ้อง พยานหลักฐานของจำเลยไม่มีน้ำหนักเพียงพอให้รับฟังหักล้างพยานหลักฐานของโจทก์ได้ ที่ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 พิพากษาว่า จำเลยได้กระทำความผิดดังฟ้องศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย
แต่ที่ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย โดย ไม่รอการลงโทษให้ นั้น เห็นว่า จำเลยไม่เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน และกัญชาของกลางมีจำนวนเพียงเล็กน้อยสมควรรอการลงโทษจำคุกเพื่อ ให้จำเลยได้กลับประพฤติตนเป็นคนดี ต่อไปแต่เพื่อให้จำเลยหลาบจำจึงให้ ลงโทษปรับจำเลยอีกสถานหนึ่งด้วย ฎีกาของจำเลยฟังขึ้นบางส่วน
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ปรับจำเลยอีก สถานหนึ่งเป็นเงิน 21,000 บาท ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 หนึ่งในสาม คงให้ปรับ 14,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับให้บังคับตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 นอกจากที่แก้คง ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ภาค 2
ทนายสมชาย 089-981-1406
ทนายอธิป 061-939-9935
ทนายเบส 091-939-4249
ทนายหนึ่ง 084-444-8952
ทนายพีท 089-595-5014
ทนายตี๋ใหญ่ 088-021-7716
ทนายดิน 084-162-9095
ทนายน้ำฝน 097-2075666
ทนายไผ่ 095-7819477
ทนายแพรว 094-975-1151