กฎหมายจราจรใหม่

ตั้งแต่วันที่ 20 กย.62 เป็นต้นไป..

เมื่อตำรวจพบเห็นการกระทำความผิดฐาน เช่น ฝ่าไฟแดง, ห้ามแซง, ห้ามจอด, ขับเร็วเกิน, ไม่รัดเข็มขัดฯ, รถมีสภาพไม่เรียบร้อย

ตำรวจจราจรจึงมีอำนาจเรียกให้หยุด.. เพื่อจับได้.. เมื่อจับแล้ว จะแค่ว่ากล่าวตักเตือนแล้วปล่อยตัวไปก็ได้.. หรือจับแล้ว จะออกใบสั่งให้ไปชำระค่าปรับก็ได้..แต่ตำรวจจราจรไม่มีอำนาจยึดใบขับขี่ไว้เพื่อให้ไปเสียค่าปรับ..(ม.140)

เว้นแต่ คนขับขาดคุณสมบัติ หรือรถ หรือผู้ขับอยู่ในสภาพที่จะขับไปได้โดยปลอดภัย.. เช่น เมาแล้วขับ..

แบบนี้ จะยึดใบขับขี่ตัวจริง หรือไม่ยึดใบขับขี่.. แต่บันทึกการยึดด้วยวิธีการทาง อิเล็คทรอนิกส์แทนก็ได้..

นอกจากนี้ ถ้าตำรวจจราจรขอดูใบขับขี่.. ผู้ขับขี่จะแสดงใบขับขี่ตัวจริง.. หรือจะให้ดูรูปภาพใบขับขี่ที่อยู่ในโทรศัพท์มือถือแทนก็ได้..

(เราจะยังไม่พูดในประเด็นว่า มีสิทธิขอดูใบขับขี่โดยไม่มีเหตุสมควรได้หรือไม่นะครับ..)

ถ้าตำรวจไม่พบเห็นการกระทำความผิด.. จะเรียกให้หยุดเพื่อขอดูใบขับขี่.. เพื่อตรวจค้น.. เพื่อตรวจปัสสาวะ.. เพื่อเป่าทดสอบเมาแล้วขับ.. หรือเพื่อตรวจสภาพรถ ไม่ได้..

เว้นแต่..

1. มีเหตุอันควรเชื่อว่า คนขับไม่อยู่ในสภาพขับได้ เช่น ขับรถเป๋ไปมาเพราะง่วง หรือเมาสุรา..

แบบนี้ตำรวจมีอำนาจเรียกให้รถหยุดเพื่อทดสอบการเมาสุราได้ ..

ถ้าพบว่าเมาสุรา.. จะขอดูใบขับขี่ หรือจับกุมดำเนินคดีก็ได้..

2. ด่านตรวจโดยชอบ เช่น ตรวจยาเสพติด..ตำรวจมีอำนาจเรียกให้หยุดรถได้..

เน้น มีอำนาจเรียกให้หยุดรถเท่านั้นนะครับ.. ส่วนการจะตรวจค้น แต่ไหนเพียงไร.. การขอตรวจอาการเมาแล้วขับ.. การจะขอตรวจปัสสาวะ.. น่าจะต้องพิจารณาเหตุตามที่กฎหมายประกอบด้วย..

การใช้ความสุภาพ ความอดกลั้น และดุลพินิจในการใช้อำนาจอย่างเหมาะสมเป็นคุณสมบัติที่ดีของผู้บังคับใช้กฎหมายครับ..

ปรึกษาทีมงานทนายความ
ทนายอธิป 061-939-9935
ทนายเบส 091-939-4249
ทนายหนึ่ง 084-444-8952
ทนายไผ่ 095-781-9477
ทนายตี๋ใหญ่ 088-021-7716

Facebook Comments