ถูกรถชนแต่รักษาตัวที่โรงพยาบาลรัฐ มีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายจากผู้ชนหรือไม่ เรียกอะไรได้บ้าง
คําพิพากษาฎีกาที่ 736/2561
ฎีกาของจําเลยที่ 2 ว่า โจทก์ไม่ได้จ่ายค่ารักษาพยาบาลไปจริง เนื่องจากรัฐบาลออกให้โดยผ่าน สํานักงานประกันสังคมโจทก์เรียกร้อง ค่ารักษาพยาบาลไม่ได้ เมื่อจําเลยที่ 2 ไม่ได้ยกขึ้นต่อสู้เป็นประเด็น ไว้ในคําให้การ จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้น ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวล กฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 249 วรรคหนึ่ง (ที่ใช้บังคับขณะยื่นฟ้อง)
ปัญหาว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมหรือไม่เป็นปัญหาข้อกฎหมาย แต่ไม่ใช่ปัญหาอันเกี่ยวด้วยความ สงบเรียบร้อยของประชาชน เมื่อ จําเลยที่ 2 ไม่ได้ยกขึ้นต่อสู้ไว้ในคําให้การ อุทธรณ์ของจําเลยที่ 2 จึง เป็น ข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้น ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความแพ่งมาตรา 249 วรรคหนึ่ง
เมื่อผู้เอาประกันภัยยินยอมให้จําเลยที่ 1 ซึ่งเป็นญาติขับรถกระบะคันที่เอาประกันภัยไว้ กรณีจึง เข้าเงื่อนไขข้อบังคับตามกรมธรรม์ประกันภัยในหมวดการคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอก ข้อ 4 ซึ่ง กําหนดไว้สําหรับการคุ้มครองความรับผิดของผู้ขับว่า บริษัทจะถือว่าบุคคลใดซึ่งขับรถยนต์โดยได้รับความ ยินยอมจากผู้เอาประกันภัยเสมือนหนึ่งว่าเป็นผู้เอาประกันภัยเสียเอง ซึ่งหมายความว่า นอกจากความรับ ผิดในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยทําละเมิดต่อผู้อื่นแล้วจําเลยที่ 2 ยังยอมรับผิดในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยมิได้ เป็นผู้ทําละเมิดต่อผู้อื่นแต่ผู้อื่นเป็นผู้ทําละเมิดโดยผู้นั้นได้ขับรถยนต์คันที่จําเลยที่ 2 รับประกันภัยไว้โดย ความยินยอมของผู้เอาประกันภัย เมื่อจําเลยที่ 1 ขับรถยนต์ที่จําเลยที่ 2 รับประกันภัยไว้โดยความยินยอม ของผู้เอาประกันภัย จําเลยที่ 2 จึงต้องร่วมรับผิดกับจําเลยที่ 1 ต่อโจทก์ตามกรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าว ซึ่งโจทก์สามารถฟ้องจําเลยที่ 2 ผู้รับประกันภัยให้รับผิดตามสัญญาประกันภัยได้โดยไม่จําต้องฟ้องผู้เอา ประกันภัยให้รับผิดตามสัญญาประกันภัยได้โดยไม่จําต้องฟ้องผู้เอาประกันภัยด้วย
เงื่อนไขข้อบังคับตามกรมธรรม์ประกันภัยหมวดการคุ้มครองความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก ข้อ 1.1 กําหนดว่า บริษัทจะรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายแก่ชีวิต ร่างกายหรืออนามัย ของบุคคลภายนอกตามความเป็นจริง ดังนั้น กรณีทําให้เสียหายแก่ร่างกายโจทก์ ค่าสินไหมทดแทน นอกจากค่ารักษาพยาบาลแล้วโจทก์ย่อมมีสิทธิได้รับค่าเสียหายที่ต้องขาดประโยชน์ทํามาหาได้เพราะไม่ สามารถประกอบการงาน กับค่าเสียหายเพื่อการที่โจทก์เสียความสามารถประกอบการงานสิ้นเชิงหรือ บางส่วน ทั้งในเวลาปัจจุบันและอนาคตซึ่งเป็นผลโดยตรงจากการทําละเมิดของจําเลยที่ 1 ตามประมวล กฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 443 วรรคสอง และมาตรา 444 วรรคหนึ่ง และความเสียหายต่อร่างกาย หรืออนามัยของโจทก์ที่แท้จริงอีกส่วนหนึ่งที่จําเลยที่ 2 ผู้รับประกันภัยต้องรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัย
เรียกอะไรได้บ้าง
- กรณีมิได้ตายทันที ค่ารักษาพยาบาล ปพพ. ม.443 วรรคสอง
- กรณีมิได้ตายทันทีค่าเสียหายที่ต้องขากค่าประโยชน์ทํามาหาได้ ปพพ. ม.443 วรรคสอง
- ค่าใช้จ่ายอันตนได้เสียไป ปพพ.ม.444 วรรคหนึ่งฃ
- ค่าเสียความสามารถในการประกอบการงาน ปพพ.ม. 444 วรรคหนึ่ง
- ค่าขาดแรงงาน ปพพม. 4 4 5iber.me/tanai-athip
สำนักงานทนายฟ้องประกันมีปัญหาคดีความโทรปรึกษา โทร 061-939-9935