หมิ่นประมาทด้วยเอกสารโดยใช้อีเมล
คำชี้ขาดความเห็นแย้งที่ ๒๔๔/๒๕๔๙
หมิ่นประมาท (ม.๓๒๖, ๓๒๘) ป.อ.
ข้อเท็จจริงได้ความว่า เมื่อเดือนตุลาคม ๒๕๕๕ นาย ศ. กรรมการผู้บริหาร ของโรงพยาบาลได้รับอีเมล (E-mail) ๑ ฉบับจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ระบุผู้ส่งในท้าย
อีเมลฉบับดังกล่าวเป็นภาษาอังกฤษซึ่งเป็นชื่อของผู้ต้องหามีข้อความว่า ไม่ได้รับความสะดวก ในการดูแลคนไข้ได้ระบุชื่อของผู้เสียหายเป็นแพทย์เจ้าของไข้ ผู้เสียหายไร้จรรยาบรรณ
ไม่มีมนุษยธรรมและมารยาท โรงพยาบาลต้องการเงินเป็นหลัก ฯลฯ แต่นาย ศ. ไม่ได้ แจ้งให้ผู้เสียหายทราบเพียงแต่ประชุมให้ทราบทั่วกันว่า ให้ปรับปรุงการให้บริการคนไข้ให้ ดียิ่งขึ้น
ต่อมาวันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๕๖ มีผู้ส่งอีเมลมาอีกระบุผู้ส่งบนหัวกระดาษว่า ชื่อ O-PO โดยมีข้อความเหมือนกันกับอีเมลฉบับแรก พนักงานของโรงพยาบาลได้ส่ง อีเมลดังกล่าวให้นาย ศ. และผู้เสียหาย
ซึ่งผู้เสียหายลำดับเหตุการณ์แล้วจำได้ว่าตาม วันเวลาที่กล่าวอ้าง ผู้ต้องหาคือผู้นำมารดามารักษากับตน จึงร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับ ผู้ต้องหา ฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาด้วยเอกสาร
พนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบ ไปยังศูนย์ข้อมูลสารสนเทศ (ศขส.) และศูนย์ตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรทาง เทคโนโลยี (ศตท.) แล้วได้ความว่าไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าผู้ใดเป็นผู้ส่งอีเมลทั้ง ๒ ฉบับ
ข้างต้นเพราะไม่มีข้อมูลอีเมลพนักงานสอบสวนไม่ได้ตัวผู้ต้องหามาสอบสวนได้มีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้อง หาตามข้อกล่าวหา และได้ขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาไว้แล้ว
พนักงานอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาตามข้อกล่าวหาโดยเห็นว่า ไม่มีพยาน หลักฐานยืนยันว่าผู้ต้องหาเป็นผู้ส่งอีเมลดังกล่าว
สรุป
เมื่อไม่ปรากฏพยานหลักฐานยืนยันได้ว่า ผู้ต้องหาเป็นผู้ส่งอีเมลทั้งสองฉบับ ดังกล่าว ประกอบกับเจ้าพนักงานไม่สามารถตรวจสอบได้ว่า อีเมลทั้งสองฉบับมาจาก ที่ใดใครเป็นผู้ส่ง
คดีจึงมีพยานหลักฐานไม่เพียงพอพิสูจน์ว่า ผู้ต้องหาได้กระทำความผิด ฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาด้วยเอกสารตาม ป.อ. มาตรา ๓๒๒, ๓๒๘
ปัญหาคดีความปรึกษาทีมงานนคร สำนักงานกฎหมายปรัชญาเศรษฐ์ทนายความ