กรณีเบี้ยวค่าเลี้ยงดู มีสิทธิถูกขัง ?
บทกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับประเด็นนี้ คือ
พระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.๒๕๕๓
มาตรา ๑๖๒ ในคดีที่ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้จ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูหรือค่าเลี้ยงชีพถ้าศาลเห็นสมควรจะสั่งให้ลูกหนี้ตามคำพิพากษานำเงินมาวางศาลตามเงื่อนไข หรือระยะเวลาที่ศาลกำหนด ในกรณีลูกหนี้ตามคำพิพากษามีรายได้ประจำ ศาลอาจสั่งให้อายัดเงินเท่าจำนวนที่จะชำระเป็นค่าอุปการะเลี้ยงดู หรือค่าเลี้ยงชีพเป็นรายเดือน แล้วให้ผู้มีหน้าที่จ่ายเงินดังกล่าวนำเงินมาวางศาลแทนลูกหนี้ตามคำพิพากษา
เมื่อความปรากฏต่อศาลเองหรือผู้มีสิทธิได้รับค่าอุปการะเลี้ยงดูหรือค่าเลี้ยงชีพร้องต่อศาลว่าลูกหนี้ตามคำพิพากษาไม่ปฏิบัติตามวรรคหนึ่ง ให้ศาลเรียกตัวมาสอบถาม หากปรากฏเป็นความจริงให้ศาลว่ากล่าวตักเตือนให้ปฏิบัติตามคำสั่งศาล
ในกรณีลูกหนี้ตามคำพิพากษาไม่ปฏิบัติตามคำตักเตือนของศาลตามวรรคสองโดยไม่มีเหตุอันสมควร ศาลมีอำนาจออกหมายจับและสั่งให้กักขังลูกหนี้ตามคำพิพากษาไว้จนกว่าลูกหนี้จะนำเงินค่าอุปการะเลี้ยงดูหรือค่าเลี้ยงชีพมาชำระหรือวางศาล แต่ห้ามมิให้กักขังลูกหนี้ตามคำพิพากษาแต่ละครั้งเกินกว่าสิบห้าวันนับแต่วันจับหรือกักขัง แล้วแต่กรณี เว้นแต่จะได้รับการปล่อยชั่วคราว
ในคดีที่ศาลมีคำพิพากษาให้ชำระค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร หากลูกหนี้ไม่ปฎิบัติตาม เจ้าหนี้สามารถดำเนินการตามกฎหมาย ดังนี้
๑.แจ้งต่อศาล โดยทำเป็นคำร้องขอหมายเรียกตัวมาสอบถามเพื่อตักเตือน หากลูกหนี้ไม่ปฎิบัติตามคำตักเตือนของศาล ขอศาลให้มีคำสั่งออกหมายจับและสั่งกักขังลูกหนี้ต่อไปจนกว่าจะชำระค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร
๒.ถ้าศาลเห็นสมควร จะสั่งให้ลูกหนี้นำเงินมาวางศาลหรือกรณีมีรายได้ประจำ ศาลอาจให้อายัดเงินโดยผู้มีหน้าที่จ่ายเงินนำเงินมาวางศาลแทนลูกหนี้
แนวทางปฎิบัติ
๑.ศาลจะมีคำสั่งเรียกตัวลูกหนี้มาสอบถามก่อนว่ามีเหตุใดจึงผิดสัญญา โดยนัดพร้อมสอบถามทั้งสองฝ่ายให้มาศาล ในชั้นนี้ลูกหนี้ก็มักจะยินยอมหาเงินมาชำระ
๒.แต่หากไม่ปฎิบัติตามคำตักเตือนศาล จึงสามารถออกหมายจับแต่หากลูกหนี้อยู่ในห้องพิจารณา ศาลสามารถออกหมายขังได้ ไม่ต้องออกหมายจับอีก
๓.ห้ามกักขังลูกหนี้แต่ละครั้งไม่เกิน ๑๕ วัน
๔.หมายขังลูกหนี้ย่อมมีสิทธิขอปล่อยตัวชั่วคราวได้