ผู้ให้เช่าซื้อซึ่งมีชื่อถือกรรมสิทธิรถยนต์ ต้องรับผิดในคดีละเมิดหรือไม่
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2522 โจทก์ได้โดยสารรถยนต์ของจำเลยเข้าสู่กรุงเทพมหานคร ระหว่างทางคนขับรถโดยสารดังกล่าวขับรถด้วยความประมาทเล่นเล่ออย่างร้ายแรงชนกับรถคันอื่น เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับบาดเจ็บ โจทก์ที่ 1 เสียหายเป็นเงิน 498,000 บาท โจทก์ที่ 2 เสียหายเป็นเงิน 18,088 บาท ขอบังคับให้จำเลยชำระ จำเลยที่ 1 ให้การว่า ไม่เคยประกอบกิจการเดินรถรับส่งผู้โดยสารขณะเกิดเหตุไม่ได้เป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองรถคันเกิดเหตุเพราะให้เช่าซื้อไปแล้ว ขอให้ยกฟ้อง จำเลยที่ 2 ที่ 3 ให้การปฏิเสธความรับผิด จำเลยที่ 4 ให้การว่า ไม่ได้ให้รถคันเกิดเหตุเข้ามาวิ่งร่วม คดีโจทก์ขาดอายุความฟ้องโจทก์เคลือบคลุม โจทก์บาดเจ็บไม่มาก ขอให้ยกฟ้อง ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันชำระเงิน 146,483 บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ทั้งสอง จำเลยที่ 1 และที่ 4 อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยที่ 1 และที่ 4 ฎีกา ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ 1 มิได้ทำกิจการรับขน ก่อนเกิดเหตุจำเลยที่ 2และที่ 3 ได้เช่าซื้อรถยนต์โดยสารคันเกิดเหตุไปจากจำเลยที่ 1 แล้ว วันเกิดเหตุรถคันดังกล่าวอยู่ในความครอบครองของจำเลยที่ 2 และที่ 3 และขณะเกิดเหตุรถยนต์โดยสารคันเกิดเหตุยังมิได้เข้าร่วมรับขนส่งคนโดยสารกับจำเลยที่ 4 เพิ่งนำเข้าร่วมหลังเกิดเหตุแล้ว วินิจฉัยข้อกฎหมายว่า การเช่าซื้อนั้น กรรมสิทธิ์จะยังไม่โอนไปจนกว่าจะได้ชำระค่าเช่าซื้อครบและในระหว่างเช่าซื้อผู้เช่าซื้อเป็นผู้ครอบครองและใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินที่เช่าซื้อ ฉะนั้นแม้ในขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 1 ยังมีชื่อเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์รถยนต์โดยสารคันเกิดเหตุแต่ก็มิได้เป็นผู้ครอบครองหรือควบคุมรถคันดังกล่าว จึงไม่ต้องรับผิดชอบเพื่อการเสียหายอันเกิดแต่รถคันดังกล่าว และเมื่อขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 4 มิได้เป็นผู้ครอบครองหรือควบคุมรถยนต์โดยสารคันเกิดเหตุ จำเลยที่ 4 จึงไม่ต้องรับผิดชอบเพื่อการเสียหายอันเกิดแต่รถคันดังกล่าวเช่นเดียวกับจำเลยที่ 1 พิพากษาแก้ ให้ยกฟ้องโจทก์เฉพาะคดีที่เกี่ยวกับจำเลยที่ 1 และที่ 4
- สรุป
- การเช่าซื้อนั้นกรรมสิทธิ์จะยังไม่โอนไปจนกว่าจะได้ชำระค่าเช่าซื้อครบและในระหว่างเช่าซื้อผู้เช่าซื้อเป็นผู้ครอบครองใช้ประโยชน์ทรัพย์สินที่เช่าซื้อฉะนั้นแม้จะเกิดเหตุผู้ให้เช่าซื้อมีชื่อเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์รถยนต์โดยสารคันเกิดเหตุแต่ก็มิได้เป็นผู้ครอบครองหรือควบคุมรถเพระาผู้เช่าซื้อเป็นผู้ครอบครองและใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินอยู่ผู้ให้เช่าซื้อจึงไม่ต้องรับผิดชอบเพื่อการเสียหายอันเกิดแต่รถคันดังกล่าว จำเลยที่2นำรถคันเกิดเหตุมาวิ่งร่วมกับจำเลยที่4หลังเกิดเหตุแล้วจำเลยที่4จึงมิได้เป็นผู้ครอบครองหรือควบคุมรถดังกล่าวในขณะเกิดเหตุจึงไม่ต้องรับผิดชอบเพื่อการเสียหายอันเกิดแต่รถคันดังกล่าวก่อนที่จะนำเข้ามาวิ่งร่วม.