ด่าผู้อื่นว่า ไอ้เหี้ย โกงบ้านโกงเมือง มีความผิดฐานหมิ่นประมาทหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 445/2522
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกล่าวคำหมิ่นประมาท ท. ผู้เสียหายต่อบุคคลที่สามว่า “พวกคุณโกงบ้านโกงเมือง ไอ้เหี้ย ท. ไอ้สัตว์พวกโกงบ้านโกงเมือง” โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้เสียหายเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง เหตุเกิดที่ตำบลนางรอง อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒๖ คำสั่งคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๔๑ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๒๖
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาว่า ถ้อยคำที่จำเลยพูดดังที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยไม่เป็นการหมิ่นประมาท
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า ท. ผู้เสียหายเป็นข้าราชการตามวันเวลาที่โจทก์กล่าวหา จำเลยพูดว่าผู้เสียหายต่อหน้าบุคคลอื่น ๆ ว่า “ไอ้เหี้ย ไอ้สัตว์ ไอ้ ท. โกงบ้านโกงเมือง” แล้ววินิจฉัยข้อกฎหมายว่า แม้ถ้อยคำที่จำเลยด่าผู้เสียหายว่า ไอ้เหี้ย ไอ้สัตว์ จะเป็นเพียงการดูหมิ่นเหยียดหยามผู้เสียหาย แต่ถ้อยคำที่จำเลยด่าผู้เสียหายว่า ไอ้ ท. โกงบ้านโกงเมือง มีความหมายว่า ผู้เสียหายซึ่งเป็นข้าราชการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเบียดบังทรัพย์สินหรือผลประโยชน์ของทางราชการมาเป็นของตนหรือของผู้อื่นโดยทุจริต จึงเป็นการใส่ความผู้เสียหาย โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้เสียหายเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ถ้อยคำที่จำเลยพูดเป็นการหมิ่นประมาท
พิพากษายืน
สรุป
การที่จำเลยพูดว่า ผู้เสียหายซึ่งเป็นข้าราชการว่า “ไอ้เหี้ย ไอ้สัตว์ ไอ้ ห. โกงบ้านโกงเมือง” นั้น แม้ถ้อยคำที่ว่า อ้ายเหี้ย ไอ้สัตว์ จะเป็นเพียงการดูหมิ่นเหยียดหยาม แต่ถ้อยคำที่ว่าผู้เสียหายโกงบ้านโกงเมืองนั้น มีความหมายว่า ผู้เสียหายซึ่งเป็นข้าราชการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เบียดบังทรัพย์สินหรือผลประโยชน์ทางราชการมาเป็นของตนหรือของผู้อื่นโดยทุจริต เป็นการใส่ความผู้เสียหายโดยการที่น่าจะทำให้ผู้เสียหายเสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง เป็นการหมิ่นประมาท