Home บทความคดีแพ่ง เบิกความรับสารภาพบางประเด็น ถือเป็นเหตุบรรเทาโทษหรือไม่

เบิกความรับสารภาพบางประเด็น ถือเป็นเหตุบรรเทาโทษหรือไม่

2505

เบิกความรับสารภาพบางประเด็น ถือเป็นเหตุบรรเทาโทษหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2033/2528

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๒๘๙, ๙๑ และตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ

จำเลยให้การปฏิเสธในข้อหาฆ่าผู้อื่น ส่วนข้อหาอื่นให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ ประกอบด้วยมาตรา ๗๒ และตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา ๗, ๘ ทวิ, ๗๒, ๗๒ ทวิ

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ ประกอบกับมาตรา ๗๒ นั้น คำให้การของจำเลยในชั้นสอบสวนและชั้นพิจารณาเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ ความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯจำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามคำให้การของจำเลยในชั้นสอบสวน จำเลยให้การรับสารภาพว่าได้ใช้อาวุธปืนยิงและตีผู้ตายจนถึงแก่ความตายจริง โดยมิได้อ้างเหตุในเรื่องป้องกันตัวขึ้นต่อสู้ ในชั้นพิจารณาจำเลยก็เบิกความรับข้อเท็จจริงดังกล่าวและรับด้วยว่าจำเลยได้ลงชื่อไว้ในคำให้การชั้นสอบสวนจริง ศาลชั้นต้นก็ได้ยกเอาคำให้การของจำเลยในชั้นสอบสวนขึ้นมารับฟังประกอบการวินิจฉัยคดีด้วยดังนี้ ถือได้ว่าคำให้การของจำเลยในชั้นสอบสวนและคำเบิกความของจำเลยในชั้นพิจารณาเป็นการให้ความรู้แก่ศาลอันเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา เป็นเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ แล้ว และการที่ศาลลงโทษจำเลยน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดเพราะจำเลยกระทำความผิดโดยบันดาลโทสะแล้วนั้น ก็ไม่มีกฎหมายใดห้ามมิให้ศาลลดโทษให้จำเลยในกรณีที่มีเหตุบรรเทาโทษในประการอื่นอีก

ที่โจทก์ฎีกาว่า ในความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตกับความผิดฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้นศาลอุทธรณ์หยิบยกขึ้นมาวินิจฉัยและลดโทษให้จำเลยโดยไม่มีคู่ความฝ่ายใดอุทธรณ์เป็นการไม่ชอบนั้นเห็นว่าแม้จะไม่มีคู่ความฝ่ายใดอุทธรณ์ในความผิดทั้งสองฐานดังกล่าวก็ตามแต่เมื่อจำเลยอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นอันทำให้คดีต้องขึ้นไปสู่การพิจารณาของศาลอุทธรณ์แล้ว หากศาลอุทธรณ์เห็นว่ามีเหตุบรรเทาโทษแก่จำเลยเพราะจำเลยให้การรับสารภาพในความผิดทั้งสองฐานนี้ ศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยและลดโทษให้แก่จำเลยได้

พิพากษายืน

สรุป

จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนว่าได้ใช้อาวุธปืนยิงและตีผู้ตายจนถึงแก่ความตายจริง โดยมิได้อ้างเหตุในเรื่องป้องกันตัวขึ้นต่อสู้ในชั้นพิจารณาจำเลยก็เบิกความรับข้อเท็จจริงดังกล่าวและรับด้วยว่าได้ลงชื่อไว้ในคำให้การจริงทั้งศาลชั้นต้นก็ได้ยกเอาคำให้การดังกล่าวขึ้นมารับฟังประกอบการวินิจฉัยคดีด้วยดังนี้ ถือได้ว่าคำให้การของจำเลยในชั้นสอบสวนและคำเบิกความของจำเลยในชั้นพิจารณาเป็นการให้ความรู้แก่ศาลอันเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา เป็นเหตุบรรเทาโทษ

การที่ศาลลงโทษจำเลยน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดเพราะจำเลยกระทำความผิดโดยบันดาลโทสะแล้วนั้น ศาลยังลดโทษให้จำเลยในกรณีที่มีเหตุบรรเทาโทษในประการอื่นได้อีก

เมื่อคดีขึ้นมาสู่การพิจารณาของศาลอุทธรณ์แล้วหากศาลอุทธรณ์เห็นว่ามีเหตุบรรเทาโทษแก่จำเลยในข้อหาความผิดที่มิได้อุทธรณ์ขึ้นมาด้วยเพราะจำเลยให้การรับสารภาพศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยและลดโทษให้แก่จำเลยได้

Facebook Comments