Home บทความคดีแพ่ง ออกเช็คเพื่อแลกเปลี่ยนเช็คฉบับเดิมที่เด้ง เช็คฉบับใหม่เด้งมีความผิดทางอาญาหรือไม่

ออกเช็คเพื่อแลกเปลี่ยนเช็คฉบับเดิมที่เด้ง เช็คฉบับใหม่เด้งมีความผิดทางอาญาหรือไม่

1540

ออกเช็คเพื่อแลกเปลี่ยนเช็คฉบับเดิมที่เด้ง เช็คฉบับใหม่เด้งมีความผิดทางอาญาหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 796/2525

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับเป็นว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ. 2497 มาตรา 3 ปรับจำเลยที่ 1 เป็นเงิน 30,000 บาท จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 1 ปี จำเลยทั้งสองฎีกา

 

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “โจทก์มีนายมะพร้าวดีกรรมการผู้จัดการบริษัทโจทก์เบิกความว่า จำเลยที่ 2 ได้สั่งให้โจทก์ทำยาทาแก้โรคผิวหนังให้แก่ห้างหุ้นส่วนจำเลยที่ 1 เป็นจำนวน 18,000 กว่าโหลคิดเป็นเงิน 398,000 บาทเศษ โจทก์ได้ทำและส่งยาให้แก่จำเลยที่ 1 แล้วจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจำเลยที่ 1 ได้ออกเช็คตามเอกสารหมาย จ.2 เพื่อชำระค่ายาดังกล่าว จำเลยที่ 2 และนายมะยมพยานจำเลยก็เบิกความว่า ได้สั่งยาจากโจทก์ไปขายที่ห้างหุ้นส่วนจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นการเจือสมกับคำเบิกความของพยานโจทก์ จึงรับฟังได้ว่า จำเลยได้ออกเช็คฉบับนี้เพื่อชำระค่ายาที่สั่งซื้อจากโจทก์ ที่จำเลยนำสืบว่า นายมะยมสั่งซื้อยาจากโจทก์ไปขายที่ห้างหุ้นส่วนจำเลยที่ 1 หลายครั้ง และออกเช็คเพื่อชำระหนี้ค่ายาให้โจทก์หลายฉบับ แต่โจทก์เรียกเก็บตามเช็คเหล่านั้นไม่ได้ จึงให้จำเลยที่ 2 ออกเช็คตามเอกสารหมาย จ.2 ให้โจทก์ไว้เพื่อเป็นประกันหนี้ดังกล่าว ต่อมาได้มีการชำระหนี้ให้โจทก์เสร็จสิ้นแล้ว โจทก์ได้คืนเช็คที่เรียกเก็บเงินไม่ได้และเอกสารให้จำเลยตามเอกสารหมาย ล.21 รวม 56 แผ่นนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า ถ้าเช็คตามเอกสารหมาย จ.2 เป็นเช็คที่จำเลยออกให้เพื่อเป็นประกันดังกล่าวแล้ว จำนวนเงินจะต้องตรงหรือใกล้เคียงกับจำนวนเงินตามเช็คที่โจทก์คืนให้แก่จำเลย แต่ปรากฏตามเอกสารหมาย ล.21 แผ่นสุดท้ายว่ามีเช็คคืนทั้งหมด 27 ฉบับเป็นจำนวนเงิน 444,400 บาท จำนวนเงินไม่ตรงหรือใกล้เคียงกับจำนวนเงินที่ระบุในเช็คตามเอกสารหมาย จ.2 ซึ่งมีจำนวน 398,363 บาท รายการตามเอกสารเหล่านี้ฟังไม่ได้ว่าเป็นหนี้รายเดียวกับหนี้ตามเช็คหมาย จ.2 ที่โจทก์นำมาฟ้อง พยานหลักฐานของจำเลยไม่สามารถหักล้างพยานโจทก์ที่รับฟังได้ดังกล่าว

 

การที่เช็คฉบับนี้ถูกแก้ปีที่ออกเช็คจากเลข 20 มาเป็น 22 นั้น จำเลยที่ 2 เบิกความรับว่า ได้ลงชื่อกำกับการแก้ไขนี้ไว้ แต่อ้างว่าไม่ได้แก้ตัวเลขดังกล่าว ศาลฎีกาได้ตรวจดูเช็คฉบับนี้แล้ว ปรากฏว่าตัวเลขถูกแก้ทั้งสองตัว คือทั้งเลข 2 และเลข 0 นายมะพร้าวกรรมการผู้จัดการบริษัทโจทก์เบิกความว่า จำเลยที่ 2 เป็นผู้แก้เอง ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อจำเลยที่ 2 ออกเช็คฉบับนี้ จำเลยที่ 2 จงใจที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค โดยจำเลยที่ 2 เซ็นทั้งชื่อและนามสกุล ไม่ตรงกับตัวอย่างที่จำเลยที่ 2 ให้ไว้แก่ธนาคารซึ่งมีแต่ “ชื่อ” เท่านั้นและเช็คของจำเลยต้องลงชื่อผู้สั่งจ่าย 2 คนแต่จำเลยที่ 2 ลงชื่อสั่งจ่ายเพียงคนเดียว เป็นเหตุให้ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คฉบับนี้ พฤติการณ์ดังกล่าวเป็นการทำลายน้ำหนักคำเบิกความของจำเลยที่ 2 เป็นเหตุให้ไม่เชื่อว่าจำเลยที่ 2 จะเพียงแต่ลงชื่อกำกับไว้ในเช็คเท่านั้นน่าเชื่อว่าจำเลยที่ 2 ได้แก้ตัวเลขดังกล่าวด้วย และพฤติการณ์ที่จำเลยออกเช็คดังกล่าวฟังได้ว่าจำเลยมีเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น แต่ที่ศาลอุทธรณ์วางโทษจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 1 ปีนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าสูงเกินไป

 

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 6 เดือน

สรุป

เช็คของจำเลยจะต้องลงชื่อผู้สั่งจ่าย 2 คน แต่จำเลยที่ 2 ลงชื่อสั่งจ่ายเพียงคนเดียว โดยเซ็นทั้งชื่อและนามสกุลไม่ตรงกับตัวอย่างที่ให้ไว้แก่ธนาคารซึ่งมีแต่’ชื่อ’ เท่านั้นเป็นเหตุให้ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินแสดงว่า เมื่อจำเลยที่ 2 ออกเช็คฉบับนี้ จำเลยที่ 2 เจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค

Facebook Comments