การฟ้องหย่า จะต้องมีพยานบุคคลด้วย หรือไม่
คดีฟ้องหย่า จะต้องใช้พยานบุคคลประกอบด้วยหรือไม่ แบ่งออกเป็น 2 กรณีคือ
1.กรณีพยานหลักฐานที่เป็นพยานเอกสารหรือพยานวัตถุยังไม่ชัดเจน
ตัวอย่างเช่น คดีฟ้องหย่าที่อ้างเหตุคู่สมรสมีชู้ แต่ยังไม่มีรูปถ่าย คลิปวีดีโอ ที่ปรากฏเรื่องการเป็นชู้อย่างชัดเจนมีแต่เพียงพยานบุคคลที่พบเห็นเหตุการณ์
กรณีเช่นนี้ย่อมจะต้องใช้พยานบุคคลมาประกอบด้วย ซึ่งท่านจะต้องนำพยานบุคคลดังกล่าวมาพบทนายความ และนำไปเบิกความในชั้นศาล
2.กรณีพยานหลักฐานที่เป็นพยานเอกสารหรือพยานวัตถุชัดเจนแล้ว
ตัวอย่างเช่น คดีฟ้องชู้ที่มีรูปถ่าย คลิปวีดีโอ กล้องวงจรปิด หรือมีพฤติการณ์ ปรากฏตามสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆอย่างชัดเจน
เช่นนี้ก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องใช้พยานบุคคล มาเป็นพยานในชั้นศาลหรือมาพบทนายความแต่อย่างใด
จะได้คำพิพากษาตอนไหน
ทางปฏิบัติแล้ว เมื่อศาลอ่านคำพิพากษาแล้ว จะยังคัดคำพิพากษาวันนั้นเลยไม่ได้ แต่ต้องรออีกประมาณ 7-10 วัน เพื่อให้ศาลและผู้พิพากษาทุกคนลงลายมือชื่อให้ครบก่อน
จะได้หนังสือรับรองคดีถึงที่สุดตอนไหน
หลังจากศาลพิพากษาให้หย่าขาดกันแล้ว อีก 1 เดือน คุณจึงสามารถนำคำพิพากษาของศาลพร้อมหนังสือรับรองคดีถึงที่สุดไปจดทะเบียนหย่าที่ว่าการอำเภอได้
สาเหตุที่ต้องรอ 1 เดือน เนื่องจากการนำคำพิพากษาไปจดทะเบียนหย่าขาดกันที่สำนักงานทะเบียน หรือที่ว่าการอำเภอนั้น จะต้องมี “ หนังสือรับรองคดีถึงที่สุด “ ไปพร้อมกับคำพิพากษาด้วย
ซึ่งหนังสือรับรองคดีถึงที่สุดนี้ จะออกได้หลังศาลพิพากษาไปแล้วเกินกว่า 30 วันเท่านั้น
มีปัญหาคดีความปรึกษาทีมงานทนายกฤษดา
โทร 089-142-7773 ไลน์ไอดี @lawyers.in.th