คำถาม ประจักษ์พยานถึงแก่ความตาย หรือศาลออกหมายจับให้มาเป็นพยานแต่
ไม่ได้ตัวมา ศาลจะรับฟังคำให้การในชั้นสอบสวนของพยานประกอบพยานหลักฐานอื่นได้
หรือไม่
คำตอบ มีคำพิพากษาฎีกาวินิจฉัยไว้ดังนี้
(ก) คำพิพากษาฎีกาที่ ๕๓๑๙/๒๕๖๓
โจทก์ไม่สามารถนำ ส. ซึ่งเป็นประจักษ์พยานมาเบิกความเป็นเพราะ ส. ได้ถึงแก่
ความตายไปก่อนแล้ว นับว่ามีเหตุจำเป็นและมีเหตุผลสมควรเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
จึงต้องด้วยข้อยกเว้นให้ศาลรับฟังคำให้การในชั้นสอบสวนของ ส. ซึ่งเป็นพยานบอกเล่าได้
ตาม ป.วิ.อ. มาตรา ๒๒๖/๓ วรรคสอง (๒)
(ข) คำพิพากษาฎีกาที่ ๔๒๑๗/๒๕๖๓
โจทก์ไม่สามารถนำตัว ส. ซึ่งเป็นประจักษ์พยานมาเบิกความในชั้นพิจารณา แต่
คำให้การชั้นสอบสวนของ ส. ก็ยังเป็นพยานหลักฐานของโจทก์ คือ เป็นพยานบอกเล่า
และตามพฤติการณ์แห่งคดีเข้าข้อยกเว้นให้รับฟังพยานบอกเล่าดังกล่าวนี้ได้ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา
๒๒๖/๓ วรรคสอง (๒) คือ คดีนี้ ส. ได้รับหมายเรียกให้มาเป็นพยานที่ศาล แต่ถึงวันนัด
กลับไม่มาศาลและไม่ได้แจ้งเหตุขัดข้อง ศาลชั้นต้นจึงออกหมายจับ ส. เพื่อเอาตัวมาเป็นพยาน
แต่ก็ไม่ได้ตัว ส. มาเบิกความต่อศาลเพราะไม่ทราบว่าพักอาศัยอยู่ที่ใด ถือได้ว่ามีเหตุจำเป็น
เนื่องจากไม่สามารถนำ ส. ซึ่งเป็นผู้ที่ได้เห็นและได้ยินในเรื่องที่จะให้การเป็นพยานนั้นด้วยตนเอง
โดยตรงมาเป็นพยานได้และมีเหตุสมควรเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมที่จะรับฟังพยานบอกเล่านั้น
ศาลสามารถนำพยานบอกเล่าดังกล่าวนี้ไปฟังประกอบพยานหลักฐานอื่นของโจทก์ได้