การฟ้องหย่าชาวอินเดียในประเทศไทยนั้น สามารถทำได้โดยอาศัยกฎหมายไทย เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศที่มีเขตอำนาจศาลเหนือคู่สมรสทั้งสองฝ่าย โดยวิธีการฟ้องหย่าชาวอินเดียในประเทศไทย มีดังนี้
การเตรียมเอกสาร
เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับการฟ้องหย่าชาวอินเดียในประเทศไทย มีดังนี้
- หนังสือฟ้องหย่า หนังสือฟ้องหย่าเป็นเอกสารที่คู่สมรสที่ประสงค์จะฟ้องหย่าต้องจัดทำขึ้น โดยระบุรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับคู่สมรสทั้งสองฝ่าย สาเหตุแห่งการหย่าร้าง และข้อเรียกร้องต่างๆ ที่ต้องการจากศาล
- สำเนาทะเบียนสมรส สำเนาทะเบียนสมรสเป็นเอกสารที่แสดงว่าคู่สมรสทั้งสองฝ่ายได้จดทะเบียนสมรสกันถูกต้องตามกฎหมาย
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของคู่สมรสทั้งสองฝ่าย สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนเป็นเอกสารที่แสดงถึงตัวตนของคู่สมรสทั้งสองฝ่าย
- สำเนาสูติบัตรของบุตร (ถ้ามี) สำเนาสูติบัตรของบุตรเป็นเอกสารที่แสดงว่าคู่สมรสทั้งสองฝ่ายมีบุตรร่วมกัน
- หลักฐานการจดทะเบียนรับรองบุตร (ถ้ามี) หลักฐานการจดทะเบียนรับรองบุตรเป็นเอกสารที่แสดงว่าคู่สมรสทั้งสองฝ่ายได้จดทะเบียนรับรองบุตรที่เกิดจากชายอื่นหรือหญิงอื่น
- หลักฐานการชำระค่าธรรมเนียมศาล หลักฐานการชำระค่าธรรมเนียมศาลเป็นเอกสารที่แสดงว่าคู่สมรสที่ประสงค์จะฟ้องหย่าได้ชำระค่าธรรมเนียมศาลแล้ว
การยื่นฟ้อง
การยื่นฟ้องหย่าชาวอินเดียในประเทศไทย สามารถทำได้ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัด หรือศาลจังหวัดที่คู่สมรสทั้งสองฝ่ายมีภูมิลำเนาอยู่ โดยยื่นฟ้องด้วยตนเองหรือมอบอำนาจให้ทนายความยื่นฟ้องแทนก็ได้
การยื่นฟ้องหย่าชาวอินเดียในประเทศไทย สามารถดำเนินการได้ตามขั้นตอนดังนี้
- คู่สมรสที่ประสงค์จะฟ้องหย่าต้องเตรียมเอกสารต่างๆ ตามที่กล่าวไว้ข้างต้นให้ครบถ้วน
- คู่สมรสที่ประสงค์จะฟ้องหย่าจะต้องนำเอกสารต่างๆ ไปยื่นต่อศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัด หรือศาลจังหวัดที่คู่สมรสทั้งสองฝ่ายมีภูมิลำเนาอยู่
- เมื่อศาลได้รับคำฟ้องแล้ว ศาลจะนัดคู่สมรสทั้งสองฝ่ายมาไกล่เกลี่ย หากคู่สมรสไม่สามารถตกลงกันได้ ศาลจะพิจารณาคดีต่อไป
การพิจารณาคดี
เมื่อศาลได้รับคำฟ้องแล้ว ศาลจะนัดคู่สมรสทั้งสองฝ่ายมาไกล่เกลี่ย หากคู่สมรสไม่สามารถตกลงกันได้ ศาลจะพิจารณาคดีต่อไป โดยศาลจะพิจารณาจากพยานหลักฐานที่คู่สมรสทั้งสองฝ่ายนำสืบมา และคำพิพากษาของศาลจะถือเป็นที่สุด
พยานหลักฐานที่คู่สมรสทั้งสองฝ่ายอาจนำสืบมาประกอบการพิจารณาคดี ได้แก่
- เอกสารต่างๆ เช่น ทะเบียนสมรส สูติบัตร หลักฐานการจดทะเบียนรับรองบุตร หลักฐานการชำระค่าธรรมเนียมศาล เป็นต้น
- คำให้การของคู่สมรสทั้งสองฝ่าย
- คำให้การของพยานบุคคล
- เอกสารทางการแพทย์
- เอกสารทางจิตวิทยา เป็นต้น
กรณีพิเศษ
สำหรับกรณีที่มีการฟ้องหย่าชาวอินเดียที่อาศัยอยู่ในประเทศอินเดีย คู่สมรสที่ประสงค์จะฟ้องหย่าอาจพิจารณาฟ้องหย่าที่ประเทศอินเดียก็ได้ โดยจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศอินเดีย
ข้อควรระวัง
ในการฟ้องหย่าชาวอินเดียในประเทศไทย คู่สมรสที่เป็นผู้ฟ้องหย่าจะต้องมีคุณสมบัติดังนี้
- มีอายุครบ 18 ปีบริบูรณ์
- สมรสถูกต้องตามกฎหมาย
- ฝ่ายตรงข้ามมิได้เป็นผู้เยาว์หรือไร้ความสามารถ
หากคู่สมรสที่เป็นผู้ฟ้องหย่าไม่มีคุณสมบัติดังกล่าว คู่สมรสอาจขอศาลแต่งตั้งผู้แทนคดีแทนก็ได้
นอกจากนี้ การฟ้องหย่าชาวอินเดียในประเทศไทย อาจมีขั้นตอนและรายละเอียดปลีกย่อยเพิ่มเติม ซึ่งอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละกรณี ดังนั้น คู่สมรสที่ประสงค์จะฟ้องหย่าชาวอินเดียในประเทศไทย ควรปรึกษาทนายความที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อขอคำแนะนำและความช่วยเหลือ
การอธิบาย ยกตัวอย่าง หรือขยายความ
-
ในการอธิบาย ยกตัวอย่าง หรือขยายความ สามารถทำได้โดยเพิ่มเติมรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับวิธีการฟ้องหย่าชาวอินเดียในประเทศไทย เช่น
- อธิบายความหมายของเอกสารต่างๆ ที่ต้องเตรียมสำหรับการฟ้องหย่าชาวอินเดียในประเทศไทย
- อธิบายขั้นตอนการยื่นฟ้องหย่าชาวอินเดียในประเทศไทยอย่างละเอียด
- อธิบายพยานหลักฐานที่คู่สมรสทั้งสองฝ่ายอาจนำสืบมาประกอบการพิจารณาคดีอย่างครอบคลุม
-
ตัวอย่างเช่น ในการอธิบายเอกสารต่างๆ ที่ต้องเตรียมสำหรับการฟ้องหย่าชาวอินเดียในประเทศไทย สามารถทำได้ดังนี้
หนังสือฟ้องหย่าเป็นเอกสารที่คู่สมรสที่ประสงค์จะฟ้องหย่าต้องจัดทำขึ้น โดยระบุรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับคู่สมรสทั้งสองฝ่าย สาเหตุแห่งการหย่าร้าง
วันนี้ทีมงานทนายกฤษดา จะมาแนะนำขั้นตอนง่ายๆในการฟ้องหย่าสามีหรือภริยาชาวที่จดทะเบียนสมรสมีวิธีการดังนี้
ตามปกติแล้วการหย่า นั้นสามารถฟ้องในศาลของประเทศไทยได้ ดังนั้นการหย่า แล้วทีมงานทนายกฤษดาได้สรุปวิธีการอ่างง่ายไว้โดยเฉพา
–>1.ฟ้องหย่าชาวอินเดีย ที่ศาลไหน
การจะฟ้องหย่าชาวจีนนั้น ฟ้องที่ศาลเยาวชนและครอบครัวฯ ในจังหวัดหรือเขตที่ตั้งอยู่อยู่กินกัน หรือ ศาลที่อยู่ในเขตอำนาจของภูมิลำเนาจำเลย ที่จำเลยมีทะเบียนบ้านอยู่
–>2.ฟ้องหย่าชาวอินเดีย ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง
- สำเนาบัตรประชาชน ของตนเอง และจำเลย
- ทะเบียนบ้าน ของตนเอง และจำเลย
- ทะเบียนสมรส หรือใบสำคัญการสมรส
- รูปถ่ายการอยู่กิน
- พยานหลักฐานที่เกี่ยวกับเหตุหย่า
- สูติบัตรบุตร
- หลักฐานหรือตารางรายการสินสมรส
- หลักฐานที่เกี่ยวกับหนี้สินในระหว่างสมรส
- หลักฐานค่าเลี้ยงชีพ
- หลักฐานค่าเลี้ยงดูบุตร
–>3.เหตุแห่งการฟ้องหย่าชาวอินเดีย มีเอกสารอะไรบ้าง
ฟ้องหย่าแม้จะเป็นหารฟ้องชาวต่างชาติ แต่ใช้หลักเกณฑ์ในการหย่าของกฎหมายไทย
- ยกย่องหญิงอื่น/ชายอื่น เป็นชู้หรือมีชู้
- ประพฤติชั่ว ไม่ว่าจะเป็นความผิดอาญาหรือไม่
- ได้รับความอับอาย
- ถูกดูหมิ่นถูกเกลียดชัง
- ได้รับความเสียหายเกินควร
- ทำร้ายร่างกาย หรือทรมานจิตใจ หมิ่นประมาทหรือเหยียดหยามบุพการี
- ทิ้งล้างอีกฝ่ายเกินหนึ่งปี
- ถูกจำคุกเกินหนึ่งปี
- สมัครใจแยกกันอยู่เกิน3ปี
- ถูกศาลสั่งให้สาบสูญ
- ไม่ให้ความช่วยเหลือหรืออุปการะเลี้ยงดู หรือทำตนเป็นปฏิปักษ์
- วิกลจริตมาเกิน 3 ปี
- ผิดฑัณฑ์บนที่เคยตกลงกันไว้เป็นหนังสือ
- เป็นโรคติดต่อร้ายแรง
- ไม่อาจร่วมประเวณีได้ตลอดกาล
–>4.เสียค่าธรรมเนียมเท่าไหร่ในคดีฟ้องหย่า
- หย่าอย่างเดียว 200 บาท ค่าส่งหมายตามอัตราที่ศาลประกาศ
- หย่ามีสินสมรส เสียค่าธรรมเนียม 2 เปอร์เซ็นต์ และค่าส่งหมายตามอัตราที่ศาลประกาศ
- หย่าเรียกค่าเลี้ยงชีพ เสีย 200 บาท และค่าส่งหมายตามอัตราที่ศาลประกาศ
- หย่าเรียกค่าเลี้ยงดูบุตร เสีย 200 บาท และค่าส่งหมายตามอัตราที่ศาลประกาศ
–>5ฟ้องหย่า ใช้ระยะเวลาประมาณเท่าใด
- ประมาณ2-6เดือนในศาลชั้นต้น
- ประมาณ3เดือนถึง6เดือนในศาลอุทธรณ์
–>6ขอยกเว้นค่าธรรมเนียมได้หรือไม่
ได้มีหลักเกณฑ์ดังนี้
- คู่ความผู้ขอไม่สามารถเสียค่าธรรมเนียมศาลได้ โดยขอให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลในการฟ้อง หรือ ต่อสู้คดีในศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ หรือ ชั้นฎีกา ก็ได้ ตามมาตรา 155
- กำหนดเวลายื่นคำร้อง ต้องยื่นต่อศาลชั้นต้นที่จะฟ้อง หรือที่ได้ฟ้องคดีไว้แล้ว พร้อมกับคำฟ้อง คำฟ้องอุทธรณ์หรือคำฟ้องฎีกา คำร้องสอดหรือคำให้การ แล้วแต่กรณี แต่ถ้าบุคคลนั้นตกเป็นผู้ไม่สามารถเสียค่าธรรมเนียมศาลในภายหลัง จะยื่นคำร้องในเวลาใดๆก็ได้ มาตรา 156 วรรคหนึ่ง
- การเสนอพยานหลักฐาน ผู้ร้องอาจเสนอพยานหลักฐานไปพร้อมกับคำร้อง และหากศาลเห็นสมควรไต่สวนพยานหลักฐานเพิ่มเติม ศาลจะไต่สวนโดยเร็ว มาตรา 156 วรรค 2
- หลักเกณฑ์การอนุญาตให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมศาล
4.1 เป็นที่เชื่อได้ว่าผู้ร้องไม่มีทรัพย์สินพอที่จะเสียค่าธรรมเนียมศาล หรือ
4.2 หากผู้ร้องไม่ได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลจะได้รับความเดือดร้อนเกินสมควร #เมื่อพิจารณาถึงสถานะของผู้ร้อง และในกรณีที่ผู้ร้องเป็นโจทก์ หรือ ผู้อุทธรณ์ หรือฎีกา การฟ้องร้อง หรือ อุทธรณ์ หรือ ฎีกา นั้นต้องมีเหตุอันสมควรด้วย มาตรา 156/1 วรรค 2 - กรณีคู่ความเคยได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลในศาลชั้นต้นมาแล้ว แล้วยื่นคำร้องนั้นในชั้นอุทธรณ์หรือฎีกาอีก ให้ถือว่าคู่ความนั้นยังไม่มีทรัพย์สินพอที่จะเสียค่าธรรมเนียมศาล หรือหากไม่ได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลจะได้รับความเดือดร้อนเกินสมควรอยู่ ตามมาตรา 156/1 วรรค 3 เว้นแต่จะปรากฏต่อศาลเป็นอย่างอื่น
–>6อุทธรณ์/ฎีกาได้หรือไม่
เป็นไปตามเงื่อนไขตามกฎหมาย
–>6ควรฟ้องหย่าหรือไม่
หากมีเหตุหย่าควรติดต่อทีมงานทนายกฤษดา เพื่อดำเนินคดีทางศาล