เทคนิคการเตรียมคดีฟ้องหย่า
การฟ้องหย่าเป็นกระบวนการทางกฎหมายที่สำคัญ เนื่องจากเป็นการยุติสถานภาพการสมรสของคู่สามีภรรยา การเตรียมคดีฟ้องหย่าจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้คดีมีความสมบูรณ์และมีโอกาสชนะคดีสูง
1. ปรึกษาทนายความ
ก่อนฟ้องหย่า ควรปรึกษาทนายความที่มีประสบการณ์ เพื่อให้ทนายความช่วยวิเคราะห์ข้อเท็จจริงและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยทนายความจะแนะนำว่าคู่สามีภรรยามีเหตุที่สามารถฟ้องหย่าได้หรือไม่ และควรเรียกร้องอะไรในคดีฟ้องหย่า
การปรึกษาทนายความตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้คู่สามีภรรยาเข้าใจสิทธิและหน้าที่ของตนตามกฎหมาย และสามารถวางแผนการดำเนินคดีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทนายความจะพิจารณาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกับคู่สามีภรรยาว่าเข้าข่ายเหตุแห่งการหย่าหรือไม่ โดยเหตุแห่งการหย่าตามกฎหมายไทยมีดังนี้
- สามีหรือภริยาอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องผู้อื่นฉันสามีหรือภริยา เป็นชู้หรือมีชู้ หรือร่วมประเวณีกับผู้อื่นเป็นอาจิณ
- สามีหรือภริยาทำร้ายร่างกายหรือจิตใจอีกฝ่ายจนเป็นเหตุให้อีกฝ่ายได้รับความอับอายขายหน้าหรือได้รับความทุกข์ทรมานอย่างสาหัส
- สามีหรือภริยาทิ้งร้างอีกฝ่ายเกิน 3 ปี
- สามีหรือภริยาเป็นโรคร้ายแรงที่รักษาไม่หายและเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินชีวิตร่วมกัน
- สามีหรือภริยาผิดนัดชำระค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร
นอกจากนี้ ทนายความจะพิจารณาว่าคู่สามีภรรยามีทรัพย์สินร่วมกันหรือไม่ หากมีทรัพย์สินร่วมกัน ทนายความจะแนะนำว่าควรเรียกร้องอะไรในคดีฟ้องหย่า เช่น การแบ่งสินสมรส การเรียกร้องค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร เป็นต้น
2. รวบรวมพยานหลักฐาน
พยานหลักฐานเป็นสิ่งสำคัญในการพิจารณาคดีฟ้องหย่า โดยพยานหลักฐานที่ควรรวบรวม ได้แก่
- ใบสำคัญการสมรส
- ทะเบียนบ้านที่สามี-ภรรยา และบุตรพักอาศัยอยู่ด้วยกัน
- บัตรประจำตัวประชาชน สามี-ภรรยา
- สูติบัตรบุตรหรือทะเบียนบ้านของบุตรทุกคน (ถ้ามี)
- หนังสือแสดงการเปลี่ยนชื่อ – สกุล (ทั้งของสามีภรรยาและบุตร ถ้ามี)
- หลักฐานเกี่ยวกับเหตุแห่งการหย่า เช่น หลักฐานการล่วงละเมิดทางเพศ หลักฐานการทำร้ายร่างกาย หลักฐานการทิ้งร้าง เป็นต้น
พยานหลักฐานแต่ละประเภทควรมีความน่าเชื่อถือและสามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นได้ เช่น หลักฐานการล่วงละเมิดทางเพศอาจเป็นรายงานจากแพทย์ หลักฐานการทำร้ายร่างกายอาจเป็นใบรับรองแพทย์ หลักฐานการทิ้งร้างอาจเป็นจดหมายหรือหลักฐานอื่นที่แสดงว่าอีกฝ่ายได้ทิ้งร้างไป เป็นต้น
3. เขียนคำฟ้อง
คำฟ้องเป็นเอกสารสำคัญที่ใช้ในการฟ้องหย่า โดยคำฟ้องควรมีรายละเอียดครบถ้วน ถูกต้อง และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด โดยทนายความจะช่วยร่างคำฟ้องให้
คำฟ้องควรระบุรายละเอียดต่างๆ ดังนี้
- ชื่อและที่อยู่ของโจทก์และจำเลย
- เหตุแห่งการหย่า
- ทรัพย์สินที่คู่สามีภรรยามีร่วมกัน
- ข้อเรียกร้องของโจทก์
คำฟ้องควรเขียนอย่างชัดเจนและกระชับ เพื่อให้ศาลเข้าใจข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นและพิจารณาคดีได้อย่างถูกต้อง
4. ชำระค่าธรรมเนียมศาล
ค่าธรรมเนียมศาลเป็นค่าใช้จ่ายในการฟ้องคดี โดยค่าธรรมเนียมศาลจะขึ้นอยู่กับมูลค่าของทรัพย์สินที่จะแบ่งกัน
ค่าธรรมเนียมศาลสำหรับคดีฟ้องหย่ามีดังนี้
- กรณีไม่มีทรัพย์สินร่วมกัน คิดค่าธรรมเนียมศาล 1,000 บาท
- กรณีมีทรัพย์สินร่วมกัน คิดค่าธรรมเนียมศาลตามมูลค่าของทรัพย์สิน โดยคิดอัตรา 0.01% ของมูลค่าทรัพย์สิน
ตัวอย่างเช่น หากมีทรัพย์สินร่วมกันมูลค่า 1,000,000 บาท ค่าธรรมเนียมศาลจะอยู่ที่ 1,000 บาท
ค่าธรรมเนียมศาลสามารถชำระได้ที่สำนักงานศาลที่ยื่นฟ้องคดี
5. ยื่นฟ้องคดี
เมื่อเตรียมเอกสารครบถ้วนแล้ว คู่สามีภรรยาสามารถยื่นฟ้องคดีหย่าต่อศาลได้ โดยสามารถยื่นฟ้องได้ที่ศาลแขวงหรือศาลจังหวัด
เอกสารที่ใช้ในการยื่นฟ้องคดี ได้แก่
- คำฟ้อง
- ใบสำคัญการสมรส
- ทะเบียนบ้านที่สามี-ภรรยา และบุตรพักอาศัยอยู่ด้วยกัน
- บัตรประจำตัวประชาชน สามี-ภรรยา
- สูติบัตรบุตรหรือทะเบียนบ้านของบุตรทุกคน (ถ้ามี)
- หนังสือแสดงการเปลี่ยนชื่อ – สกุล (ทั้งของสามีภรรยาและบุตร ถ้ามี)
- ค่าธรรมเนียมศาล