การเตรียมพยานหลักฐานคดีหมิ่นประมาทเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จในการฟ้องร้องคดี การเตรียมที่ดีจะช่วยให้คู่ความสามารถนำเสนอข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายได้อย่างครบถ้วนและชัดเจน ส่งผลให้ศาลมีคำพิพากษาที่ยุติธรรมและตรงกับความเป็นจริง
พยานหลักฐานที่ดีในคดีหมิ่นประมาท หมายถึง พยานหลักฐานที่ศาลสามารถรับฟังได้ และมีความน่าเชื่อถือเพียงพอที่จะสนับสนุนข้อเท็จจริงที่คู่ความอ้างว่ามีอยู่ โดยทั่วไปแล้ว พยานหลักฐานที่ดีในคดีหมิ่นประมาท ได้แก่
- พยานบุคคล คือ บุคคลที่มาเบิกความด้วยวาจาต่อหน้าศาลหรือใช้วิธีแสดงกิริยา ท่าทางสื่อความหมายถึงเหตุการณ์หรือข้อเท็จจริงข้อใดข้อเท็จจริงหนึ่งต่อหน้าศาล พยานบุคคลที่ดีควรเป็นผู้รู้เห็นเหตุการณ์หรือข้อเท็จจริงนั้นมาด้วยตนเองโดยตรง มีสติปัญญาดี จำเหตุการณ์หรือข้อเท็จจริงนั้นได้ชัดเจน และสามารถตอบคำถามของศาลได้อย่างตรงไปตรงมา
- พยานเอกสาร คือ หนังสือลายลักษณ์อักษรที่ได้ขีดเขียนหรือพิมพ์ หรือ จารึก ไว้เป็นการถาวร และอ่านได้ความ พยานเอกสารที่ดีควรเป็นเอกสารที่ถูกต้องแท้จริง มีลายมือชื่อหรือตราประทับของผู้ออกเอกสาร และสามารถพิสูจน์ได้ว่าเอกสารนั้นได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย
- พยานวัตถุ คือ สิ่งของหรือวัตถุอื่นใดที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเกี่ยวข้องกับข้อเท็จจริงในคดี พยานวัตถุที่ดีควรเป็นวัตถุที่แท้จริงที่เกี่ยวข้องกับข้อเท็จจริงในคดี และสามารถพิสูจน์ได้ว่าวัตถุนั้นได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย
- พยานผู้เชี่ยวชาญ คือ บุคคลที่มีความเชี่ยวชาญในสาขาวิชาชีพใดวิชาชีพหนึ่ง พยานผู้เชี่ยวชาญที่ดีควรเป็นผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญในสาขาวิชาชีพนั้นอย่างแท้จริง และสามารถให้ความเห็นหรือข้อเท็จจริงที่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีได้
นอกจากนี้ พยานหลักฐานที่ดีในคดีหมิ่นประมาทยังควรมีลักษณะดังต่อไปนี้
- มีความเกี่ยวข้อง คือ พยานหลักฐานนั้นต้องเกี่ยวข้องกับประเด็นข้อพิพาทในคดี
- มีความน่าเชื่อถือ คือ พยานหลักฐานนั้นต้องมาจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และสามารถพิสูจน์ได้ว่าได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย
- มีความเพียงพอ คือ พยานหลักฐานนั้นต้องเพียงพอที่จะสนับสนุนข้อเท็จจริงที่คู่ความอ้างว่ามีอยู่
คู่ความควรรวบรวมพยานหลักฐานที่ดีและครบถ้วนมาประกอบการพิจารณาคดี เพื่อให้ศาลสามารถพิจารณาคดีได้อย่างถูกต้องและยุติธรรม
พยานหลักฐานที่คู่ความอาจนำมาใช้เป็นหลักฐานในคดีหมิ่นประมาท ได้แก่
- ข้อความที่หมิ่นประมาท อาจเป็นข้อความที่เขียน พิมพ์ พูด หรือแสดงออกด้วยประการใดๆ ก็ได้
- หลักฐานว่าข้อความนั้นถูกเผยแพร่ออกไป อาจเป็นหลักฐาน เช่น สำเนาเอกสารที่เผยแพร่ข้อความ คลิปวิดีโอที่บันทึกการเผยแพร่ข้อความ เป็นต้น
- หลักฐานว่าข้อความนั้นทำให้ผู้เสียหายเสียหาย อาจเป็นหลักฐาน เช่น สำเนาเอกสารทางการแพทย์ที่แสดงว่าผู้เสียหายได้รับความเสียหายทางร่างกายหรือจิตใจ สำเนาเอกสารที่แสดงว่าผู้เสียหายได้รับความเสียหายด้านชื่อเสียงหรือเกียรติยศ เป็นต้น
นอกจากนี้ คู่ความอาจขอให้ศาลเรียกบุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาเบิกความหรือส่งเอกสารมาประกอบการพิจารณาคดีก็ได้ ตัวอย่างเช่น หากข้อความหมิ่นประมาทนั้นเผยแพร่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ คู่ความอาจขอให้ศาลเรียกผู้ดูแลระบบสื่อสังคมออนไลน์มาเบิกความหรือส่งบันทึกข้อมูลการเผยแพร่ข้อความนั้นมาประกอบการพิจารณาคดีได้
หากคู่ความสามารถรวบรวมพยานหลักฐานที่ดีและครบถ้วนมาประกอบการพิจารณาคดีได้ ก็จะช่วยให้คู่ความมีโอกาสชนะคดีมากขึ้น